จีน เอสโตเนียและเกาหลีใต้ เป็น 3 ประเทศตัวอย่างของความสำเร็จ ที่พัฒนาเศรษฐกิจให้ขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยนโยบายการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล

 

ทำไมต้องเร่งการขยายตัวของเศรษฐกิจ?

 

เศรษฐกิจโตเร็ว หมายถึง รายได้ประเทศและประชาชนเพิ่มขึ้นเร็ว รายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้นเร็ว อาทิ ถ้าปี พ.ศ. 2567 เศรษฐกิจขยายตัว 10%

 

หมายถึง รายได้ประเทศเพิ่ม 1.9 ล้านล้านบาทจากปี 2566 รายได้เฉลี่ยประชาชนเพิ่มคนละ 26,000 บาท  รายได้รัฐบาล (สุทธิ) เพิ่มขึ้น 2.5 แสนล้านบาท

 

 

รายได้รัฐบาลสามารถ นำไปใช้สร้างประโยชน์ให้ประชาชน เช่น เบี้นคนชรา งบประมาณสาธารณสุข ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล หรือ ใช้ลดหนี้รัฐบาล เพื่อลดภาระดอกเบี้ยรัฐบาลในอนาคต

 

เศรษฐกิจโตอย่างก้าวกระโดด ทำได้ หรือไม่?

 

มีหลายประเทศในโลกที่ทำแล้ว อาทิ เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน สิงคโปร์ และ เอสโตเนีย เป็นต้น แต่ที่จะขอพูดถึงก่อน 3 ประเทศคือ  จีน เอสโตเนีย และ เกาหลีใต้

 

ประเทศจีน ในปี 1980 มี per capita ที่ USD 306 ต่ำมาก แต่ก็มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจาก เติ้ง เสี่ยวผิง ได้ขึ้นเป็นผู้นำจีน ในปี 1979 (เหมา เจ๋อ ตุง เสียชีวิต ในปี 1978)

เติ้ง เสี่ยงผิง ได้ใช้นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบตลาด และทำการเปิดประเทศ รวมทั้งจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกเพื่อดึงดูดการลงทุนและนักลงทุนต่างชาติเข้าประเทศ

 

โดย per capita จาก 1980 ถึง 2022 เพิ่มขึ้น 41.7 เท่าตัว โดยมี (compound annual growth rate) อัตราการขยายตัวเฉลี่ยปีละ 9.5%

 

ประเทศจีน เป็นอีกประเทศที่ให้ความสำคัญกับ การใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะ ดิจิทัลเทคโนโลยี ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาก

 

ในปี 2022 จีนได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 17 ของ World Digital Competitiveness Index จัดทำโดย IMD และบริษัทเทคโนโลยีของจีน มีชื่อเสียงระดับโลก หลายบริษัท อาทิ  Alibaba, Huawei Tencent and Bytedance (Tiktok)

สำหรับ เอสโตเนีย ประเทศเกิดขึ้นในปี 1991 หลังการล่มสลายของ สหภาพโซเวียต และ เป็นประเทศอดีตสังคมนิยมภายใต้อิทธิพลของสหภาพโซเวียต

 

ที่การพัฒนาทางเศรษฐกิจสูงสุด ช่วง 1993 ถึง 2022 มีการเพิ่มขึ้นของ per capita ที่ 23.9 เท่าตัว จาก USD1,194 ในปี 1993 เป็น USD28,631 ในปี 2022  มี (compound annual growth rate) อัตราการขยายตัวเฉลี่ยปีละ 11.5%

 

เอสโตเนีย นับเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับ การใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะ ดิจิทัลเทคโนโลยี ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาก

 

ในปี 2022 เอสโตเนียนับเป็นประเทศพัฒนาแล้ว (Advanced Economy) ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 20 ของ World Digital Competitiveness Index จัดทำโดย IMD

 

ประเทศเกาหลีใต้ ในปี 1980 มี per capita ที่ USD 1,714 เป็นประเทศในกลุ่ม lower-middle income เศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการเพิ่มขึ้นของ per capita ที่ 18.8 เท่าตัว จากปี 1980 เป็น USD 32,250 ในปี 2022  มี (compound annual growth rate) อัตราการขยายตัวเฉลี่ยปีละ 7.4%

 

ถึงแม้ว่าจะมีการถดถอยอย่างรุนแรงในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง และวิกฤต subprime แต่ก็ฟื้นตัวได้เร็ว และยกระดับรายได้และความอยู่ของประชาชน ได้ อย่างรวดเร็ว นับเป็นประเทศพัฒนาแล้ว hi-income มานานกว่า 10 ปี

 

ประเทศเกาหลีใต้ เป็นอีกประเทศที่ให้ความสำคัญกับ การใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะ ดิจิทัลเทคโนโลยี ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาก

 

ในปี 2022 เกาหลีใต้นับเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 8 ของ World Digital Competitiveness Index จัดทำโดย IMD และบริษัทเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ มีชื่อเสียงระดับโลก หลายบริษัท  อาทิ  Samsung LG และ Kakao

 

ทั้ง 3 ประเทศนับว่า เป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ให้ขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

ทั้ง 3 ประเทศ ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะ ดิจิทัลเทคโนโลยี และใช้เป็นกลไกสำคัญยกระดับบริการภาครัฐ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 23 เมษายน 2566