"เศรษฐกิจดิจิทัล" ทางรอดหนุนไทยเติบโต
"เศรษฐกิจดิจิทัล" ทางรอดหนุนไทยเติบโต
โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ Insight
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ของเวียดนาม
World Bank ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลก: รายงานล่าสุดของ World Bank ในเดือนกรกฎาคม 2568 ระบุว่า ความท้าทายและความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก กำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศหลังเข้ารับตำแหน่งรอบสอง ทำให้มีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกสำหรับปีนี้เหลือเพียง 1.9% จากเดิมที่ 2.3%
แนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์และเงินเฟ้อ: ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มลดลงประมาณ 12% โดยเฉพาะราคาน้ำมัน เนื่องจากความต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจลดลงจากอุปสรรคทางการค้าและปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ เงินเฟ้อทั่วโลกมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ อัตราดอกเบี้ยอาจลดลงได้ไม่มากเท่าที่คาด และต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น กระทบทั้งประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา
เศรษฐกิจเวียดนามโดดเด่นท่ามกลางความท้าทาย :
* แม้เผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้า แต่เศรษฐกิจเวียดนามยังคงเติบโตอย่างร้อนแรง ขยายตัวถึง 7.52% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี โดยมีปัจจัยหลักมาจากการส่งออกที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
* ไตรมาส 2 ของปีนี้ เวียดนามขยายตัวเกือบ 8% (7.96%) ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2556
* เวียดนามเป็น ศูนย์กลางการผลิตระดับโลก โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอุปโภคบริโภค
* ตั้งเป้าหมายเป็นประเทศรายได้ปานกลางในปี 2573 โดยปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจที่ 8%
* สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยมีมูลค่าเกือบ 71,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งปีแรก
* เวียดนามเป็นประเทศที่มีการ เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากจีนและเม็กซิโก และเป็นเป้าหมายของการเก็บภาษีสูงถึง 20% จากสหรัฐฯ ซึ่งสูงขึ้นถึง 5 เท่าจากช่วงก่อนยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
* Fitch Solutions คาดการณ์ว่าปี 2568 เวียดนามน่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 6.4% แม้ไม่ถึงเป้า 8% ของรัฐบาลก็ตาม
สถานการณ์เศรษฐกิจไทยและความท้าทาย :
* การคาดการณ์ GDP ไทย:
* World Bank คาดการณ์ GDP ไทยปี 2568 ที่ 1.8% ในกรณีที่บรรยากาศการค้าโลกยังคงมีความไม่แน่นอนและยืดเยื้อ
* หากบรรยากาศการค้าโลกคลี่คลายและดีขึ้น GDP ไทยปีนี้อาจอยู่ที่ 2.2%
* อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ล่าสุดของ World Bank ในเดือนกรกฎาคมดีขึ้นกว่าเดิมประมาณ 0.2% เนื่องจากมีการเร่งส่งออกในช่วงไตรมาสแรกของปี ก่อนมาตรการกำแพงภาษีจะสิ้นสุดลง ผลกระทบที่ชัดเจนจากการส่งออกที่ชะงักงันจะเริ่มเห็นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 และต่อเนื่องไปถึงปี 2569
โครงสร้างเศรษฐกิจไทยพึ่งพิงการส่งออกสูง:
* ปี 2567 GDP ของไทยพึ่งพิงการส่งออกสูงถึง 59%
* ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ คิดเป็นประมาณ 18% ของการส่งออกทั้งหมด หรือคิดเป็น 10% ของ GDP
* มูลค่าเพิ่มในประเทศจากการส่งออกไปสหรัฐฯ คิดเป็น 5% ของ GDP
* ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนพฤษภาคม สะท้อนถึงทิศทางการผลิตที่ลดลงตามการส่งออกที่น้อยลงจากประเด็นกำแพงภาษี
* ไทยพึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกามากกว่าจีน
ภาคการท่องเที่ยว: ความหวังที่ชะลอตัว :
* การขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทยปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.3% ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 26.3%
* คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวรวมประมาณ 39.4 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 94% ของจำนวนนักท่องเที่ยวก่อนวิกฤตโควิด-19
* การฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด-19 คาดว่าจะล่าช้ากว่าเดิม เป็นไตรมาส 2 ของปี 2569 โดยคาดการณ์นักท่องเที่ยวประมาณ 40.6 ล้านคน
* จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงอย่างมาก เนื่องมาจาก: ความกังวลด้านความไม่ปลอดภัย จากกระแสข่าว, ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น, ความสนใจในสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และสิงคโปร์
* การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน จะส่งผลให้ GDP เติบโตขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19
* ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อนักท่องเที่ยวลดลง อยู่ที่ 44,757 บาทต่อคนต่อทริปในเดือนเมษายน
เศรษฐกิจดิจิทัล: ทางรอดและโอกาสของประเทศไทย :
* World Bank ชี้ "เศรษฐกิจดิจิทัล" เป็นทางรอดสำคัญ: ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจโลก ธนาคารโลกมองว่าการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลจะเป็นทางออกและปัจจัยหนุนการเติบโตที่สำคัญของประเทศไทย
ศักยภาพของไทยด้านการเข้าถึงดิจิทัล:
* ประชากรไทยมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในระดับที่ดีมาก โดยปี 2566 อยู่ที่ 90% ซึ่งใกล้เคียงกับสิงคโปร์และมาเลเซีย
* เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมีมูลค่าประมาณ 6% ของ GDP และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน
* อุตสาหกรรมการเงิน บริการดิจิทัล และซอฟต์แวร์วิศวกรรม เป็นกลุ่มงานที่มีการจ้างงานเติบโตเร็วที่สุด
* ไทยมีการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ดี เช่น THAI ID และ PromptPay ซึ่งสามารถเข้าถึงชีวิตประจำวันของผู้คนได้ดี
ความท้าทายและข้อจำกัดในเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย:
* มูลค่า ICT เมื่อเทียบกับ GDP ยังน้อยเกินไป: ปี 2564 อยู่ที่เพียง 3.4% ของ GDP ซึ่งต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่งมาก
* การลงทุนของบริษัทร่วมลงทุน (Venture Capital) ในไทยยังต่ำ: อยู่ที่เพียงประมาณ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี 2563-2565 ซึ่งต่ำกว่าอินโดนีเซียและเวียดนามค่อนข้างมาก
* ข้อเสนอแนะจาก World Bank: รัฐบาลไทยควรเร่งนโยบายในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในด้าน ICT และส่งเสริมการแข่งขันให้มากขึ้น
* หัวใจสำคัญ: การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลต้องอาศัย ความต่อเนื่องของนโยบาย และการ สร้างเทคโนโลยีโดยคนไทยเพื่อคนไทยเอง
การส่งเสริม Soft Power ไทยสู่เวทีโลก :
* แผนการนำ Soft Power ไทยไปโชว์ที่สหรัฐอเมริกา: กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีกำหนดจัดงาน "Timeless Thai Taste 25" ใน 3 เมืองสำคัญของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมนี้ ได้แก่ ลอสแอนเจลิส (9 ก.ค.), ไมอามี (11 ก.ค.) และนิวยอร์ก (14 ก.ค.)
ประเด็นที่นำเสนอ:
* อาหารไทย: จะมีการจัดแสดงร้านอาหารไทยกว่า 26 ร้านที่ได้รับการรับรองตรา Thai SELECT จากกระทรวงพาณิชย์ พร้อมสาธิตการปรุงอาหารไทยแท้
* ซีรีส์วาย (Y-series): มีการนำนักแสดงจากซีรีส์วายชื่อดังกว่า 10 คน ที่ได้รับความนิยมและมีแฟนคลับหลายประเทศ ไปจัดกิจกรรม Meet & Greet
* เป้าหมาย: เพื่อแสดงศักยภาพวัฒนธรรมด้านอาหารและความบันเทิงของไทยให้ชาวอเมริกันได้เห็น และสร้างโอกาสทางธุรกิจในสหรัฐฯ และในประเทศไทย
ที่มา TNN ช่อง 16
วันที่ 7 กรกฏาคม 2568