หอการค้า ชี้ ภาษีสหรัฐฯ ทุบเศรษฐกิจไทย ลากยาว GDP โตไม่ถึง 1%
ศูนย์พยากรณ์ฯ ม.หอการค้าไทยชี้ หากไทยถูกสหรัฐเก็บภาษีนำเข้า 25–36% ยาว 1 ปี อาจทำส่งออกหด 6 แสนล้าน กระทบจีดีพีเหลือโตไม่ถึง 1% แนะรัฐบาลเร่งเจรจา หวังลดเหลือระดับเวียดนามที่ 20% ก่อนถึงเส้นตาย 1 ส.ค. 68
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยกรณีสหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีตอบต็ไทยที่อัตรา36%ว่า มองว่าไทยยังมีโอกาสและยังพอมีเวลาที่จะเจรจาต่อรองเพื่อปรับลดภาษีลงต่ำกว่า 36% เนื่องจากสหรัฐอเมริกามองว่าจะสามารถพัฒนาการเจรจากับไทยได้ จึงมีการขยายเวลาเส้นตายให้ไทยถึงวันที่ 1 ส.ค. 2568
โดยมีความหวังว่ารัฐบาลจะสามารถเจรจาปรับลดอัตราภาษีไทยให้ต่ำลงกว่า36% ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเวียดนามที่ 20% แต่จะได้ข้อยุติอัตราภาษีที่เท่าไหร่ยังไม่สามารถประเมินได้ ส่วนการเตรียมมาตรการรับมือผลกระทบนั้นมองว่ารัฐบาลยังพอมีเวลที่จะเตรียมความพร้อม
ทั้งนี้หากผลสรุปสุดท้ายไทยถูกเรียเก็บภาษีระหว่าง 25-36% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2568 ไปจนถึงสิ้นปี คาดว่าจะส่งผลกระทบทำให้การส่งออกไทยหายไปราว 2 แสนล้านบาท และหากในช่วงจากนี้ไปจนถึงปลายปีมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เข้ามากระทบอีกโดยเฉพาะปัญหาการเมืองในประเทศจะยิ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวมมากขึ้น
ขณะเดียวกันหากปัญหาการเมืองรุนแรงจนมีการยุบสภา ส่งผลทำให้รัฐบาลไม่สามารถผลักดันการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ได้ จะส่งผลกระทบทำให้จีดีพีไทยปีนี้โตลดลง 1% ทำให้เศรษฐกิจไทยปี2568 อาจโตต่ำกว่า 1% ได้
ซึ่งเป็นอัตราเติบโตที่ลงลดจากเป้าเดิมที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเคยประเมินไว้ที่ 1.7% อย่างไรก็ตาม หากไทยถูกเรียกเก็บภาษีระหว่าง 25-36% เป็นระยะเวลาครบ 1 ปีเต็ม คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกราว 4-6แสนล้านบาท
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าทีมไทยแลนด์จะสามารถเจรจากับสหรัฐเพื่อให้ได้ข้อเสนอที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยในระยะยาว และการที่สหรัฐขยายเวลาให้ไทยนั้นเชื่อว่าสหรัฐต้องการเจรจากับไทย ซึ่งจะทำให้ไทยได้ประโยชน์ ส่วนการลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเหลือ 0% ในสินค้าหลายรายการ เชื่อว่าทีมไทยแลนด์พิจารณาดีแล้วว่าเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวมากกว่าการที่ต้องถูกเรียกเก็บภาษีน้ำเข้าสหรัฐ 36%
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 10 กรกฏาคม 2568