กกร. พร้อมเป็นแม่งาน สนับสนุนเอเปค ชวนปชช.ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี
กกร. พร้อมเป็นแม่งาน หนุนเอเปค ชวนปชช.ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี สร้างความประทับให้ทั่วโลก
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจ (เอแบค) 2022 เปิดเผยถึงการจัดประชุม เอแบค ว่า ภาคเอกชน นำโดย คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สภาบัน (กกร.)ที่ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยนั้น ถือว่าเป็นแม่งานคนสำคัญ โดยได้รับแต่งตั้งให้เป็น เอแบค เพราะฉะนั้น ส่วนร่วมที่เกิดขึ้น อันดับแรก คือ การเป็นผู้สนับสนุน (สปอร์ตเซอร์)ในการจัดงาน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค 2022 โดยสมาชิกจของ กกร. ส่วนใหญ่ก็เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีความตถังใจที่จะมีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ และมีความภูมิใจและเตรียมความพร้อม ในการประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เอเปค อย่างมาก
“อยากขอเชิญชวน ประชาชนทุกคน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ เอแบค รวมไปถึง เอเปค ของภาครัฐ ดังนั้น เราต้องร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี แสดงศักยภาพ และสิ่งได้ในทุกด้านของไทย ให้คนทั่วโลกประทับใจในความเป็นไทยไปด้วยกัน” นายเกรียงไกร กล่าว
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ทั้งนี้ สิ่งที่ กกร.ได้ทำในการจัดประชุมเอแบคครั้งนี้ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ไปถึงรายย่อย และเอสเอ็มอี และทุกภาคส่วน ให้มีส่วนร่วมกับเอแบค เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการหาการช่วยเหลือในการรายย่อย และเอสเอ็มอี โดยมี แนวคิด Business of the People ดังนั้น งานในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่เป็นของ people หรือทุกคนที่มาเป็นพลังในการมีวส่วนร่วมในครั้งนี้ นำไปสู่การผลักดันและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการทุกคน ได้มีโอกาสทางธุรกิจในทุกด้าน
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ภาคเอกชนนั้นมีบทบาทอย่างมากในการที่จะช่วยสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจให้ประชาชน และทุกภาคส่วนเข้าใจถึงความสำคัญในการมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการประชุม เอเปค 2022 นี้
นายสนั่น กล่าวว่า ขณะเดียวกันการที่ภาคเอกชนจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้ ก็ต้องมีการทำงานร่วมกับภาครับ เพราะภาครัฐเป็นตัวแทนในการเจรจา ความร่วมมือผู้นำแต่ละประเทศ ดังนั้นการร่วมมือกันก็จะอำนวยความสะดวก และช่วยปลดล็อกอุปสรรคของภาคเอกชนได้
ส่วนนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ประชาชนทุกคนต่างมีบทบาทร่วมกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่เพียงใด คุณก็คือส่วนสำคัญการผลักดันและเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจของไทยทั้งสิ้น โดยในมุมมองของผู้ร่วมขับเคลื่อนจากสถาบันการเงิน เราสนับสนุนให้เกิดการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของตลาดดิจิทัลสำหรับสินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจ หรือสินเชื่อหมุนเวียนคู่ค้า โดยการนำดิจิทัลเข้ามาประมวลผลจะช่วยลดปัญหาการกู้ยืมของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะรายย่อยและรายย่อมได้เป็นอย่างดี
นายหวงกล่าวว่า นอกจากนี้ การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และหันมาใช้ระบบการเงินสีเขียว ทั้งในและต่างประเทศ ก็ถือเป็นประเด็นที่สำคัญ โดยจะเห็นตัวอย่างได้จากในภาพยนตร์ที่มีการนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและการชำระเงินแบบดิจิทัล ที่ในอนาคตภาคธุรกิจจะมีการพัฒนาไปสู่ระบบการเงินดิจิทัลใหม่ๆ
ในวงกว้างมากขึ้น
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 20 ตุลาคม 2565