เศรษฐกิจไทยติดหล่ม รายได้ต่อหัวไม่โต เพื่อนบ้านไล่ทัน เมื่อ "ท่องเที่ยว-การเมือง" กลายเป็นคำสาป
นักวิเคราะห์การเงิน-การลงทุน มอง เศรษฐกิจไทย ขาดแรงดึงดูดใหม่ รายได้ท่องเที่ยวสูง แต่เป็น "คำสาป" ที่ทำให้ประเทศติดกับดักรายได้ปานกลาง จนเพื่อนบ้านไล่ตามทัน แนะปฏิรูปโครงสร้างเชิงเศรษฐกิจ

ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นสัดส่วนใหญ่ของเศรษฐกิจ ด้วยจุดขายเรื่องความถูก วัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ และความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว
แต่อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าว เริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้น ต่อความยั่งยืนในอนาคต ว่าเราจะขาย “บุญเก่า” นี้ได้อีกนานแค่ไหน เมื่อ รายได้จากการท่องเที่ยว อาจกลายเป็นทั้งจุดแข็งและกับดักในเวลาเดียวกัน
สอดคล้องกับมุมมองของ “วรุตม์ พรหมบุญ” บริษัท Bondcritic ฮ่องกง ผู้เชี่ยวชาญด้านตราสารหนี้ ได้อธิบายถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยในรายงาน Bond Market Monitor: Thailand Unsmiled ว่า แม้ไทยจะไม่ใช่รัฐล้มเหลว แต่ปัญหาสถาบันทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เรื้อรังได้จำกัดศักยภาพการเติบโต


ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ซ่อนอยู่ ก็คือ ภาคการท่องเที่ยว ที่กลายเป็น “คำสาป” (curse in disguise) เพราะทำให้ทั้งรัฐบาลและสังคมรู้สึก “สบายใจ” กับรายได้ที่เข้ามาง่าย และไม่เร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
เขาอธิบายว่า การพึ่งพารายได้ท่องเที่ยวมากเกินไป ทำให้ขาดแรงจูงใจในการลงทุนในอุตสาหกรรมมูลค่าสูง เช่น เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม ส่งผลให้ไทยยังคงอยู่ในอุตสาหกรรมเดิม เช่น เกษตร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการประกอบหรือส่งออกซ้ำจากประเทศอื่น
ผลกระทบเชิงโครงสร้างและการลงทุน มีอะไรบ้าง?
เมื่อเศรษฐกิจขาดการพัฒนาในภาคมูลค่าสูง GDP ต่อหัวของไทยจึงหยุดนิ่ง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและอินโดนีเซียมีอัตราการเติบโตเร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าไทย แต่ทิศทางแสดงให้เห็นว่ากำลังไล่ตาม และอาจแซงในอนาคต
ในมุมของนักลงทุนตราสารหนี้ต่างชาติ นี่คือสัญญาณเชิงลบหลายอย่าง :
* การเติบโตต่ำทำให้ความสามารถของประเทศในการชำระหนี้ในอนาคตอ่อนลง
* การไม่มีการปฏิรูปโครงสร้างทำให้ความเสี่ยงเชิงสถาบัน (institutional risk) ยังคงสูง เช่น คอร์รัปชัน ระบบอุปถัมภ์ และการเมืองที่ไม่เสถียร
* สภาพแวดล้อมนี้ทำให้ไทยไม่ใช่ “จุดหมายปลายทาง” ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในพันธบัตร แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทย (THB yield) จะต่ำ
กับดักที่ยากจะหลุด :
วรุตม์ สรุปว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องระยะสั้น แต่เป็นปัญหาโครงสร้างที่ฝังรากลึกมานาน การแก้ไขต้องมาจากการปฏิรูปสถาบัน การยกระดับทักษะแรงงาน และการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจออกนอกกลุ่มอุปถัมภ์ แต่ในความเป็นจริง การที่รายได้จากท่องเที่ยวไหลเข้ามามากและต่อเนื่อง ทำให้ทั้งรัฐบาลและประชาชนจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็น และนั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “ข้อห้ามไม่ให้ประเทศพัฒนา” โดยเทียบกับแนวคิดจากหนังสือ Why Nations Fail ว่าไทยยังห่างไกลจาก “inclusive economy” หรือเศรษฐกิจที่คนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 11 สิงหาคม 2568