อัตราว่างงานหนุ่มสาวชาวจีนพุ่ง 17.8% ในรอบ 11 เดือน บัณฑิตจบใหม่ล้นตลาด
อัตราการว่างงานของหนุ่มสาวชาวจีนสูง 17.8% ทุบสถิติใหม่ในรอบ 11 เดือนในเดือน ก.ค. เนื่องจากมีบัณฑิตจบใหม่มากเป็นประวัติการณ์ 12.2 ล้านคน เข้าสู่ตลาดแรงงานที่ยังคงไม่มั่นคง
ข้อมูลจากสำนักสถิติจีน ระบุว่า อัตราการว่างงาน ในตัวเมืองของกลุ่มคนอายุ 16-24 ปี รวมนักเรียน/นักศึกษา พุ่งสู่ระดับ 17.8% ในเดือนก่อน จากระดับ 14.5% ในเดือนมิ.ย. ถือเป็นสถิติการว่างใหม่ในรอบ 11 เดือน นับตั้งแต่เดือน ส.ค. ปีที่แล้ว
ตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากจำนวนบัณฑิตจบใหม่ที่มากเป็นประวัติการณ์ 12.2 ล้านคนในฤดูร้อนที่ผ่านมา และเข้าสู่ตลาดงานที่เต็มไปด้วยแรงงานจำนวนมากที่ประสบปัญหาในการหางานให้ตรงกับระดับการศึกษาและทักษะของตน
อย่างไรก็ดี ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ปักกิ่งได้เปิดตัวโครงการมากมายเพื่อช่วยเหลือบัณฑิตจบใหม่และคนหนุ่มสาววัยอื่นๆ ที่กำลังหางาน อาทิ กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และความมั่นคงทางสังคม ได้ออกแคมเปญระหว่างเดือน ก.ค. - ธ.ค. เพื่อสนับสนุนคนหนุ่มสาวและบัณฑิตจบใหม่ที่ว่างงาน ด้วยบริการต่างๆ เช่น การให้คำแนะนำด้านอาชีพ การแนะนำตำแหน่งงาน และการฝึกอบรมด้านต่างๆ
อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานของคนกลุ่มนี้ยังคงสูง เนื่องจากความไม่สอดคล้องกันระหว่างตำแหน่งงานและความคาดหวังของแรงงานในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย ซึ่งดีมานด์ในประเทศยังไม่สามารถชดเชยดีมานด์ส่วนที่หายไปในภาคส่วนที่หนุนการเติบโตเศรษฐกิจอย่างอสังหาริมทรัพย์ได้
เหอ เยว่ บัณฑิตสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยในฉงชิ่งที่อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า “ตลาดค่อนข้างผันผวน”
เธอบอกด้วยว่าต้องใช้เวลากว่าสองเดือนในการหางานที่เหมาะสมกับตัวเอง
เยว่ เล่าว่าเธอยื่นสมัครงานด้านปฏิบัติการสื่อไปหลายสิบแห่งในเมืองหลวงของจีน ซึ่งเป็นสายงานที่เธอมีประสบการณ์มาก่อน แต่ได้รับการตอบรับเพียงที่เดียว และให้เงินเดือนไม่ตรงตามที่คาดหวังที่ระดับ 6,000 หยวนต่อเดือน หรือราว 27,000 บาทต่อเดือน
บริษัทดังกล่าวเสนอให้ค่าตอบแทนที่ 4,000-5,000 หยวนต่อเดือน หรือประมาณ 18,000-22,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถ้าหักลบกับค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่า ค่าเดินทาง และค่าอาหาร เธอจะเหลือเงินเพียง 1,500 หยวน (ราว 6,800 บาท) หรือน้อยกว่านั้น
นอกจากนี้ ตำแหน่งดังกล่าวยังต้องทำงานล่วงเวลาบ่อยครั้ง และเธอไม่เต็มใจที่จะรับเงื่อนไขการทำงานนี้เมื่อได้รับค่าจ้างในระดับนั้น
อย่างไรก็ตาม เยว่ตัดสินใจจะหางานต่อไป ในขณะที่เพื่อนของเธอหลายคนเลือกจะเรียนต่อปริญญาโท โดยเธออาจเปลี่ยนไปหางานในเมืองหางโจว ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของจีนที่กำลังเติบโต ซึ่งตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของจีน
ทั้งนี้ ในปีนี้มีคนลงทะเบียนสอบเข้าบัณฑิตศึกษา หรือระดับปริญญาโท เกือบ 3.9 ล้านคน ด้วยความหวังที่จะมีความได้เปรียบในการแข่งขันท่ามกลางการแข่งขันหางานที่ดุเดือดในทุกระดับ
ขณะที่อัตราการว่างงานของกลุ่มคนอายุ 25-29 ปี ยกเว้นนักเรียน/นักศึกษา อยู่ที่ 6.9% ในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นจาก 6.7% ในเดือน มิ.ย.
โดยรวมแล้วอัตราการว่างงานในตัวเมืองของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.2%
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 19 สิงหาคม 2568