"เวียดนาม" เล็งสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โมดูลขนาดเล็ก SMR
จับตาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของเวียดนาม โปลิตบูโรเปิดช่องหนุนการใช้ "โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก" SMR รองรับยุคจีดีพีเลขสองหลัก
ว็บไซต์นิกเกอิเอเชียรายงานว่า รัฐบาลเวียดนามเปิดกว้างต่อการใช้ "โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูล" หรือ Small Modular Reactor (SMR) สำหรับแผนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่วางเอาไว้ โดยอ้างเอกสารของกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม (โปลิตบูโร) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจมากที่สุดของประเทศ
เวียดนามซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาค และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก กำลังพยายามเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ
ในเอกสารซึ่งเผยแพร่ทางออนไลน์ คณะโปลิตบูโรเรียกร้องให้มีการจัดทำ "แผนพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ที่ยืดหยุ่น โดยใช้เครื่องปฏิกรณ์แบบโมดูลขนาดเล็ก" อย่างเร่งด่วน และยังสนับสนุนให้บรรดาบริษัทเอกชนหันมาพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศด้วย
สื่อญี่ปุ่นระบุว่า นับเป็นครั้งแรกที่เวียดนามระบุอย่างชัดเจนว่าจะพิจารณาใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก SMR ซึ่งสามารถผลิต จัดส่ง และติดตั้งในสถานที่จริงได้โดยตรง ทำให้มีต้นทุนที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่
ปัจจุบัน หายประเทศมีการผลิตหรืออยู่ระหว่างการพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ SMR เช่น สหรัฐ สหราชอาณาจักร รัสเซีย จีน และเกาหลีใต้ โดยเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา บริษัทพลังงานรายใหญ่ของเวียดนาม Petrovietnam ได้ลงนามในข้อตกลงแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์กับบริษัท Westinghouse Electric Company จากสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ในเดือนเม.ย. เวียดนามประกาศว่าต้องการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมเป็น 183-236 กิกะวัตต์ ภายในปี 2030 จากกว่า 80 กิกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2566 โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่ม "พลังงานหมุนเวียน" และ "พลังงานนิวเคลียร์"
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลเวียดนามจำเป็นต้องลงทุนสูงถึง 1.363 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 4.38 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2573 ซึ่งเทียบเท่า หรือมากกว่า 1 ใน 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเวียดนามในปี 2024
คณะกรรมการโปลิตบูโรระบุในเอกสารว่า ความคืบหน้าของโครงการพัฒนาพลังงานหลายโครงการเป็นไปอย่างเชื่องช้า ขณะที่กรอบกฎหมายสำหรับอุตสาหกรรมก็ยังคงอ่อนแอ
"อุปทานพลังงานภายในประเทศยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้า ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการขาดแคลนพลังงานในช่วงที่ประเทศมีเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยเลขสองหลัก" โปลิตบูโรหมายถึงเป้าหมายจีดีพีของเวียดนามที่ 8.3%-8.5% ในปี 2568 นี้ และเติบโตเป็นเลขสองหลักในช่วงที่เหลือของทศวรรษ
เมื่อช่วงต้นปีนี้ เวียดนามตัดสินใจกลับมาลุยแผนพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกครั้ง หลังจากที่ถูกระงับไปเกือบสิบปี โดยคาดว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกที่มีกำลังการผลิตรวมสูงสุด 6.4 กิกะวัตต์ จะสามารถเปิดใช้งานได้ภายในปี 2035 โดยรัฐบาลเวียดนามเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า จะเลือกบริษัทรัสเซียและญี่ปุ่นเป็นผู้พัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรก
โปลิตบูโรยังเรียกร้องให้มีการส่งเสริมการผลิตน้ำมันดิบและถ่านหิน และขจัดอุปสรรคด้านกฎระเบียบสำหรับการพัฒนาพลังงานลมนอกชายฝั่งด้วย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 5 กันยายน 2568