"คนละครึ่ง" ไม่กระทบ หลังรัฐรุกอายัดบัญชีม้า ยันไม่เกี่ยวกัน
KEY POINTS :
* ยืนยันว่ามาตรการอายัดบัญชีม้าของรัฐบาลเพื่อปราบปรามมิจฉาชีพ จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการ "คนละครึ่ง" เนื่องจากไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
* ประชาชนบางส่วนที่ถูกสงสัยว่าบัญชีอาจเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ได้รับผลกระทบจากการถูกอายัดบัญชีและระงับธุรกรรมทางการเงินทั้งหมด
* ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดระยะเวลาในการพิจารณาปัญหาบัญชีที่ถูกอายัดให้รวดเร็วขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ที่ประชาชนถูกอายัดบัญชี เนื่องจากถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจะเป็นบัญชีม้า ว่า กรณีดังกล่าวได้มีการรับรู้มาระยะหนึ่ง โดยมีการติดตามสถานการณ์มาตลอดช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาเพียงแต่กลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบอาจจะไม่ใช่วงกว้างขนาดนี้
โดยอาจจะเป็นกลุ่มของผู้ที่ซื้อขาย หรือเทรดบิทคอยน์ซึ่งใช้แอพพลิเคชั่นจากต่างประเทศโอนเงินเข้ามา ก็จะถูกอายัดบัญชีไว้ 3 เดือน ผู้ที่ถูกมิจฉาชีพโอนเงินจากบัญชีม้าเข้ามาก็จะถูกอายัดบัญชีไว้ 3-4 เดือน และบางคนถึงขั้นล้ำละลายก็มี
ทั้งนี้ เนื่องจากไม่ใช่แค่ถูกอายัดบัญชีเท่านั้น แต่ถูกปิดทุกธุรกรรมทางการเงิน ไม่สามารถกู้เงินได้ ขอวงเงินไม่ได้ ใช้บัตรเครดิตไม่ได้
อย่างไรก็ดีเท่าที่ติดตามกรณีดังกล่าวนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงต่อเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการระบุถึงระยะเวลาในการพิจารณาเปิด-ปิดบัญชีจากเดิม 3 วันเหลือภายใน 4 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้การแก้ปัญหาในระยะสั่นทำได้เร็วขึ้น
“กรณีการอายัดบัญชีมีหลายหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นจะต้องมีการหารือร่วมกันในภาพรวม แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะต้องมีแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างแน่นอน”
ส่วนข้อกังวลว่าการอายัดบัญชีดังกล่าวจะกระทบกับโครงการคนละครึ่งนั้น มองว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด โดยโครงการคนละครึ่งไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้ามาเป็นส่วนประกอบ เพราะจะเป็นการใช้งานผ่านแอพพลิเคชัน
ขณะที่กรณีประชาชนแห่ถอนเงินจากสถาบันการเงินออกมาเป็นจำนวนมากนั้น มองว่าน่าจะเป็นปรากฏการณ์ระยะสั้น สิ่งที่จำเป้นจะต้องทำก็คือการแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด และสร้างความมั่นใจให้กับประชาขน ซึ่งตอนนี้ ธปท. ก็พยายามดำเนินการอยู่
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 16 กันยายน 2568