"เกาหลีใต้" แจกคูปองแสนวอนรอบใหม่ ปลุกเศรษฐกิจ แต่ตัดสิทธิ์คนรายได้สูง
KEY POINTS :
* รัฐบาลเกาหลีใต้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยแจกคูปองมูลค่า 100,000 วอนต่อคน
* โครงการนี้จะคัดกรองครัวเรือนที่มีรายได้สูงออกไป โดยครอบคลุมประชากรเกือบ 90% ของประเทศ
* เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ตามเลขท้ายปีเกิดเพื่อลดความแออัด ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. - 31 ต.ค. 2568
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เริ่มดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ด้วยการแจก "คูปองบริโภค" มูลค่า 100,000 วอน หรือประมาณ 2,279 บาทต่อคน โดยจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนตั้งแต่เช้าวันที่ 22 กันยายน 2568 จนถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ โดยโครงการนี้จะครอบคลุมประชาชนเกือบ 90% ของประชากรทั้งประเทศ แต่จะไม่รวมครัวเรือนที่มีฐานะทางการเงินสูงออกจากการเข้าร่วม
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความแออัดในระบบการลงทะเบียน รัฐบาลได้กำหนดวันลงทะเบียนตามเลขปีเกิดของผู้มีสิทธิ์ โดยผู้ที่มีเลขลงท้ายด้วย 1 และ 6 จะลงทะเบียนได้ในวันจันทร์ ขณะที่เลข 2 และ 7 จะลงทะเบียนในวันอังคาร เลข 3 และ 8 ในวันพุธ เลข 4 และ 9 ในวันพฤหัสบดี และเลข 5 และ 0 ในวันศุกร์ มาตรการนี้ถือเป็นการปรับปรุงจากรอบแรกที่เปิดให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ โดยรอบนี้จะคัดกรองครัวเรือนที่มีรายได้สูงออกไป เช่น คนที่มีฐานภาษีที่ดินเกิน 1,200 ล้านวอน หรือมีรายได้เกิน 20 ล้านวอนในปีที่ผ่านมา
แม้ว่าชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ แต่รัฐบาลยังคงเปิดโอกาสให้กลุ่มบางส่วนที่อาศัยอยู่ในประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ผู้พำนักถาวร คู่สมรสของชาวต่างชาติ หรือผู้ลี้ภัยที่ได้รับการรับรอง สามารถลงทะเบียนเพื่อรับคูปองได้เช่นกัน
สำหรับขั้นตอนการรับสิทธิ์ ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ที่ธนาคาร บัตรเครดิต หรือศูนย์ชุมชนท้องถิ่น โดยสามารถเลือกวิธีรับเงินได้หลากหลาย ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรพรีเพด หรือบัตรกำนัลท้องถิ่น อย่างไรก็ดี คูปองนี้ไม่สามารถใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หรือซูเปอร์มาร์เก็ตได้
มาตรการแจกคูปองในรอบแรกเมื่อปีที่แล้วถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีประชาชนเข้าร่วมถึง 50.08 ล้านคน หรือคิดเป็น 99% ของประชากรทั้งหมด สร้างเม็ดเงินอัดฉีดกว่า 9.06 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 243,000 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลมีความหวังว่าการแจกคูปองรอบใหม่ แม้จะเข้มงวดขึ้น แต่ก็ยังจะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ได้
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 22 กันยายน 2568