ไขรหัสความเร็ว ทำไมก่อสร้างจีน ถึงทำได้ไวแบบสายฟ้าแลบ
จีนกำลังพลิกกฎแห่งเวลา เมื่ออภิมหาโปรเจ็กต์เสร็จสิ้นภายในช่วงเวลาที่ไม่น่าเชื่อ ทำไมจีนสามารถสร้างตึกระฟ้า สะพานขนาดมหึมา และเมกะโปรเจกต์ได้ภายในเวลาไม่นาน
สาธารณรัฐประชาชนจีน ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถดำเนินโครงการก่อสร้างขนาดมหึมาได้รวดเร็วที่สุดในโลก ด้วยการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีก่อสร้างที่ล้ำสมัย โดยเฉพาะ ระบบก่อสร้างแบบ Prefabricated Construction ซึ่งหมายถึง แนวคิดก่อสร้างที่ผลิตชิ้นส่วนล่วงหน้าในโรงงาน แล้วนำไปประกอบที่ไซต์ก่อสร้าง ซึ่งอาจเป็นเพียงองค์ประกอบบางส่วน เช่น ผนัง เสา คาน หรือพื้น


นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบคือการก่อสร้างแบบโมดูลาร์ เทคนิคที่อาคารจะถูกสร้างเป็น โมดูลสำเร็จรูปทั้งยูนิต เช่น ห้องพัก ห้องน้ำ หรือแม้แต่โครงสร้างตึกทั้งส่วน โดยจะถูกนำไปประกอบที่ไซต์งานเหมือน “การประกอบเลโก้” ทำให้สามารถสร้างอาคารได้เร็วขึ้น ช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนการก่อสร้างลงอย่างมหาศาล
หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือ โรงพยาบาล Huoshenshan (หั่วเสินซาน) ในเมืองอู่ฮั่น ถูกสร้างขึ้นในปี 2020 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงพยาบาลแห่งนี้สามารถทำสถิติก่อสร้างเสร็จภายใน 10 วัน ด้วยระบบการทำงานแบบ "กองทัพก่อสร้าง" ประกอบไปด้วยการใช้แรงงานกว่า 7,000 คน และเครื่องจักรกลกว่า 1,000 คัน ผลัดกันทำงาน ตลอด 24 ชั่วโมง
ความรวดเร็วในการก่อสร้างครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะจีนได้นำ แบบแปลนของโรงพยาบาล Xiao Tangshan ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของ SARS เมื่อปี 2003 โดยการก่อสร้างในครั้งนั้นก็ใช้เวลาเพียงแค่ 7 วัน มาปรับปรุง ทำให้สามารถเร่งโครงการได้อย่างทันท่วงที
นอกจากการก่อสร้างสถานที่แล้ว จีนก็มีตัวอย่างให้เห็นจากการสร้างเมืองในไหเหมิน เมืองในมณฑลเจียงซู เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนาและก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่
บริษัทก่อสร้าง LongXin Construction Group ได้สร้างย่านที่อยู่อาศัยจำนวน 35 อาคาร แต่ละอาคารมีความสูง 20-25 ชั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อ ปรับปรุงคุณภาพที่อยู่อาศัยของประชากรหลายพันคน
การพัฒนาเมืองแห่งนี้ สามารถเสร็จสิ้นได้ภายในระยะเวลาเพียงสองปีครึ่ง ซึ่งรวมถึงขั้นตอนการวางแผน 6 เดือนด้วย มีการใช้เวลาเฉลี่ย ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ต่อชั้น ใช้รูปแบบการก่อสร้างสำเร็จรูป
สะพานถนน-ทางรถไฟช่องแคบผิงถาน เป็นอีกหนึ่งเมกะโปรเจกต์ที่สร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มต้นก่อสร้างในปี 2013 และเปิดใช้งานในปี 2020 รวมระยะเวลาเพียง 7 ปี
สะพานนี้มีความยาว 16.34 กิโลเมตร สะพานข้ามทะเล เชื่อมต่อเกาะผิงถานและหมู่เกาะใกล้เคียงเข้ากับแผ่นดินใหญ่ฝูเจี้ยน ไม่ใช่แค่สะพานธรรมดาแต่ประกอบไปด้วย ถนน 6 ช่องจราจรบนชั้นบน และรางรถไฟความเร็วสูง 2 รางบนชั้นล่าง ที่รองรับขบวนรถไฟหัวกระสุนความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แกรนต์ แชปส์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า จีนไม่ได้ใช้แค่ แบบก่อสร้าง (Drawings & Sheets) แต่เปลี่ยนไปใช้ โมเดลดิจิทัล (3D Models) แทน เนื่องจาก ไม่มีเทคนิค CAD หรือเทคโนโลยีการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยเพียงพอในโลก ที่จะสามารถสร้างแบบแปลนสำหรับเมกะโปรเจกต์ของจีนได้ทั้งหมด
โครงการของจีนออกแบบแค่ในระดับเชิงแนวคิด หรือ Schematic Design (สเครเมติกดีไซน์) ประมาณ 30% ก่อนเริ่มการก่อสร้าง แบ่งโครงการออกเป็น ส่วนๆ ตามภูมิประเทศ และออกแบบตามสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
การแก้ปัญหาระหว่างนั้นจะถูกดำเนินไปพร้อมกับการก่อสร้าง โดยทีมออกแบบและวิศวกร ทำงานคู่ขนานกัน ซึ่งเป็นแนวคิดที่จีนต่างจากประเทศอื่น ซึ่งมักพยายามแก้ทุกปัญหาด้านออกแบบก่อนเริ่มโครงการ ซึ่งทำให้โครงการล่าช้า แกรนต์ แชปส์ มองว่าจีนไม่กลัวความเสี่ยง พวกเขาเดินหน้าโครงการโดยมั่นใจว่าทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ระหว่างทาง
ความน่าสนใจของการก่อสร้างของจีน คือการผสมผสานเทคนิคก่อสร้างแบบโบราณ จีนใช้เทคนิคที่ วิศวกรโรมันโบราณคุ้นเคย
เช่น การปักหมุดกำหนดพื้นที่ด้วยสายตา และ ใช้ GPS และอุปกรณ์สำรวจแบบเคลื่อนที่ เพื่อวางแนวของโครงการอย่างแม่นยำผสมผสานเทคนิคก่อสร้างแบบโบราณ ใช้ ต้นแบบสำเร็จรูป
เช่น คันทางรถไฟ ออกแบบให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อไม่ต้องคำนวณความเสถียรของความลาดชันใหม่ทุกครั้ง ใช้เหล็กสำเร็จรูปและรางรถไฟที่สร้างไว้ล่วงหน้า สร้างโครงสร้างไฟฟ้าพร้อมกันในระหว่างการก่อสร้าง ช่วยให้จีน เร่งกระบวนการก่อสร้าง โดยไม่เสียเวลาไปกับการออกแบบใหม่ในทุกจุดของโครงการ
นอกจากความล้ำสมัยของการก่อสร้าง การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วและไร้อุปสรรค กระบวนการอนุมัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไร้ขั้นตอนราชการที่ซับซ้อน และสามารถเริ่มดำเนินการได้แทบจะในทันที
ระบบการเวนคืนที่ดินของจีน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเร่งโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อทางการตัดสินใจสร้างโครงการใด รัฐบาลสามารถเข้ายึดที่ดินโดยรอบได้ทันที โดยไม่มีการต่อรอง ยกเว้นในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะได้รับค่าชดเชยที่สูงกว่าราคาตลาด 1.4 - 3.1 เท่า และต้องย้ายออกภายใน 90-180 วัน


หากไม่ดำเนินการตามกำหนด การรื้อถอนจะเกิดขึ้นทันทีในวันที่ 91 หรือ วันที่ 181 โดยไม่มีคำสั่งศาลหรือการประท้วง สำหรับค่าชดเชยจะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้ได้รับผลกระทบ ระหว่างในวันที่ 84 หรือ 85 และต้องย้ายออกตามกำหนด หากไม่ย้ายออก เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคุณหรือรื้อถอนอาคารพร้อมคุณอยู่ข้างในหลังจากตรวจสอบพื้นที่ 24 ชั่วโมง
การเช่าที่ดินในจีน ส่วนใหญ่ที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลสามารถเรียกคืนที่ดินได้ตลอดเวลา
เจ้าหน้าที่จะเข้ามาแจ้งให้คุณทราบว่าการเช่าที่ดินของคุณเปลี่ยนแปลงแล้ว คุณจะได้รับที่ดินคุณภาพเดียวกันในรัศมี 50 กิโลเมตร
สิ่งที่ทำให้จีนสามารถพลิกกฎแห่งเวลา คือการวางแผนก่อสร้างอย่างเป็นระบบ จึงช่วยให้จีนสามารถสร้างโครงการขนาดมหึมาได้ในเวลาอันสั้น จีนใช้ ทีมวิศวกรระดับโลก จากหลายสาขา เช่น วิศวกรโครงสร้าง วิศวกรธรณีเทคนิค และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ พร้อมด้วยเครื่องจักรหนักที่ผลิตในประเทศ 100% ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ ระบบตรวจสอบคุณภาพแบบเรียลไทม์ ถูกนำมาใช้เพื่อควบคุมมาตรฐาน ตั้งแต่วัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็กคุณภาพสูง นั่งร้านที่ได้มาตรฐาน ไปจนถึงความปลอดภัยของแรงงาน หากวิศวกรทำงานผิดพลาด พวกเขาต้องรับผิดชอบโดยตรง
ด้วยการผสมผสานระหว่าง กฎหมายที่เอื้อต่อการก่อสร้าง ระบบราชการที่มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และกำลังแรงงานที่มีคุณภาพสูง จีนสามารถพลิกโฉมเมืองได้อย่างรวดเร็ว ราวกับสร้างเมืองใหม่ได้ในพริบตา นี่คือระบบการก่อสร้างแบบสายฟ้าแลบ ที่ทำให้จีนกลายเป็นผู้นำในด้านเมกะโปรเจกต์ระดับโลก
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 20 กันยายน 2568