TDRI ชี้ถนนทรุด ฉุดรถไฟฟ้าเสี่ยงเปิดล่าช้า ค่าซ่อมเพิ่ม–เสียโอกาสเศรษฐกิจ
KEY POINTS :
* เหตุถนนทรุดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้อาจทำให้โครงการเปิดให้บริการล่าช้ากว่ากำหนดเดิมในปี 2571 และมีต้นทุนค่าซ่อมแซมเพิ่มขึ้น
* การเปิดให้บริการที่ล่าช้าส่งผลให้เกิดการสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ที่ควรจะได้รับจากโครงการตามแผน
* TDRI ชี้ให้เห็นถึงต้นทุนแฝง เช่น ค่าบำรุงรักษาส่วนที่สร้างเสร็จแต่ยังใช้งานไม่ได้ และตั้งคำถามว่าค่าปรับตามสัญญาอาจไม่ครอบคลุมความเสียหายที่แท้จริง
เหตุถนนทรุด จุดเกิดเหตุคือบริเวณไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ บริเวณสถานีโรงพยาบาลวชิระ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์รถไฟฟ้ากับสถานี เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ไม่เพียงสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของประชาชน แต่ยังนำมาซึ่งคำถามใหญ่เรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจและความน่าเชื่อถือของโครงสร้างพื้นฐานไทย
ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" โดยอธิบายว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนต้นทุนทางเศรษฐกิจที่ไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะความล่าช้าในโครงการก่อสร้าง
ถ้าต้องมีการซ่อมเเซม มีต้นทุนที่สูงขึ้น เข้าใจว่าผู้รับเหมาก็ต้องรับผิดชอบ คงเป็นไปตามสัญญา เเต่โครงการที่ต้องเปิดล่าช้า มีค่าปรับอย่างไร เพราะจะส่งผลกระทบกับ รฟม.ที่มีเเผนต้องเปิดใช้ ที่สำคัญคือ คุ้มค่ากับความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ ที่อาจชะลอไปอีก 1–2 ปี เพราะถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เเละสามารถเปิดได้ตามปกติ ก็จะสามารถสร้างรายได้ สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้
ดร.สุเมธ ยังระบุว่า เงื่อนไขบทปรับความล่าช้าตามสัญญาก่อสร้างต้องไปตรวจสอบว่าเพียงพอที่จะครอบคลุมความเสียหายที่แท้จริงได้หรือไม่ โดยเฉพาะหากความเสียหายสูงกว่ามูลค่าโครงการ อีกทั้งยังมีต้นทุนที่ซ่อนอยู่
ยกตัวอย่างเช่น กรณีบางส่วนของโครงการสร้างเสร็จแล้ว แต่ยังใช้งานไม่ได้เพราะต้องรอแก้ปัญหา ทำให้ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาในช่วงที่ยังเปิดไม่ได้ ตัวอย่างเช่น รถไฟฟ้าสายสีส้มที่ก่อสร้างแล้วเสร็จบางส่วน แต่ไม่สามารถวางรางต่อได้ ก็เป็นต้นทุนของทั้งสาย
ถ้าเซสซั่นนี้สร้างไม่เสร็จเเต่เซสซั่นอื่นสร้างเสร็จเเล้ว คำถามคือ ที่สร้างเสร็จควรจะใช้งานได้ เเต่ก็ต้องมารอเซสซั่นที่ยังสร้างไม่เสร็จ ต้นทุนบำรุงรักษาตรงนี้ใครจะรับผิดชอบ ซึ่งเวลาคำนวนก็ต้องมาดูในสัญญาว่าครอบคลุมความเสียหายมากน้อยเเค่ไหน
สำหรับกรณที่เกิดขึ้นล่าสุด รฟม. เดิมวางแผนเปิดให้บริการโครงการในปี 2571 แต่เหตุการณ์ครั้งนี้อาจทำให้กำหนดการต้องเลื่อนออกไปอีก และยังไม่สามารถระบุเวลาที่ชัดเจนได้จนกว่าจะประเมินความเสียหายครบถ้วน
ดร.สุเมธ สะท้อนปัญหาคุณภาพการก่อสร้างและการควบคุมงาน พร้อมเสนอว่า ควรเร่งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะความเสียหายที่ตามมามักสูงกว่าต้นทุนที่ลงทุนเพิ่มเพื่อป้องกันไว้แต่แรก
ไม่คิดว่าการตัดราคา กำหนดงบประมาณจะเป็นสาเหตุหลัก แต่สิ่งที่ต้องถามคือ ผู้รับเหมาบางรายมีการประมูลงานต่ำกว่าต้นทุนหรือไม่ ก็ต้องประเมินว่ามีปัญหาไหม
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 25 กันยายน 2568