"จีน" คุยลงทุน "มาเลเซีย" จ่อตั้งโรงงานถลุง "แร่หายาก"
สื่อเผย "จีน" กำลังหารือ "มาเลเซีย" ถกโปรเจกต์ตั้งโรงงานถลุงแรร์เอิร์ธ พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเข้าถึงแหล่งสำรองแร่หายากที่ยังไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ หากทำได้จริงมาเลเซียจะยกระดับในอุตสาหกรรมแรร์เอิร์ธโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าว 4 รายที่เกี่ยวข้องว่า "จีนและมาเลเซีย" กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเจรจาลงทุนโครงการถลุงแร่หายาก (Rare Earth) ร่วมกัน โดยฝ่ายมาเลเซียจะนำโดยกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ Khazanah Nasional ซึ่งอาจจะร่วมมือกับทางรัฐวิสาหกิจของจีน เพื่อสร้างโรงถลุงแร่หายากขึ้นในมาเลเซีย
หากการร่วมทุนนี้เกิดขึ้นจริง จะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญสำหรับ "จีน" ซึ่งเป็นผู้จัดหาและถลุงแร่หายาก "รายใหญ่ที่สุดในโลก" และที่ผ่านมามีการห้ามส่งออกเทคโนโลยีการแปรรูปเพื่อรักษาอำนาจเหนืออุตสาหกรรมนี้
แหล่งข่าว 2 รายในมาเลเซียที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เปิดเผยว่า ปักกิ่งพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีของตนและการเข้าถึงแหล่งสำรองแร่หายากที่ยังไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ให้กับ "มาเลเซีย" โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการแข่งขันจากคู่แข่งรายใหญ่จาก "ออสเตรเลีย" อย่างบริษัท Lynas Rare Earths ซึ่งมีโรงงานแปรรูปอยู่ในรัฐปะหัง ทางตอนกลางของมาเลเซีย
อย่างไรก็ดี กองทุน Khazanah Nasional และทางกระทรวงพาริชย์และทรัพยากรธรรมชาติของมาเลเซีย ไม่ได้ตอบรับการขอความเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่ฝ่ายจีนยังไม่ตอบรับเช่นกันเนื่องจากติดช่วงสัปดาห์วันหยุดยาวเนื่องในวันชาติจีน
ตั้งโรงถลุงแร่จีนในมาเลเซียไม่ง่าย :
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวชาวมาเลเซียรายหนึ่งเปิดเผยว่า แผนดังกล่าวยังมีอุปสรรคหลายประการ เช่น ความกังวลของจีนว่ามาเลเซียจะสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับโรงงานได้เพียงพอหรือไม่
ด้านแหล่งข่าวสองรายกล่าวว่า มาเลเซียเองก็กังวลเกี่ยวกับ "ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม" ที่อาจเกิดขึ้น และอุปสรรคด้านกฎระเบียบ เนื่องจากกิจกรรมเกี่ยวกับการทำเหมืองแร่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติและใบอนุญาตจากทั้งหน่วยงานรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น ขณะที่มาเลเซียเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า ไม่สนับสนุนการทำเหมืองแร่หายากในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว เช่น เขตป่าสงวนถาวรและพื้นที่เก็บกักน้ำ
ทั้งนี้ ผู้ผลิตทั่วโลกกำลังดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งแหล่งแร่หายากทางเลือก หลังจากที่จีนซึ่งเป็นประเทศที่ผูกขาดในอุตสาหกรรม ได้จำกัดการส่งออกแร่หายากในปีนี้ ส่งผลให้การผลิตตั้งแต่บริษัทรถยนต์รายใหญ่ไปจนถึงผู้ผลิตแม่เหล็ก ต้องล่าช้าออกไป
ปัจจุบัน รัฐบาลกัวลาลัมเปอร์ประเมินว่ามาเลเซียมีแหล่งแร่หายากประมาณ 16.1 ล้านเมตริกตัน แต่ยังขาดเทคโนโลยีในการขุดและแปรรูปแร่ออกมา ขณะที่มาเลเซียได้ห้ามบริษัทต่างๆ ส่งออกแร่หายากดิบเพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพยากร
ข้อยกเว้นเดียวที่มีในปี 2565 คือการเปิดทางให้โครงการนำร่องการทำเหมือง โดยมุ่งเป้าไปที่การช่วยกำหนดแนวทางการดำเนินงานและการออกใบอนุญาตระดับชาติสำหรับการสกัดแร่หายาก
ด้านบริษัท Lynas ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่หายากรายใหญ่ที่สุดของโลกนอกประเทศจีน ได้ลงนามข้อตกลงในเดือนพ.ค. กับรัฐกลันตัน ทางตะวันออกของมาเลเซีย เพื่อจัดหาแร่หายากคาร์บอเนตผสมในอนาคต ซึ่งถือเป็นความพยายามในการพัฒนาอุตสาหกรรมแรร์เอิร์ธในประเทศ
ถ้าทำได้มาเลเซียรุ่งแน่ :
แหล่งข่าวระบุว่า โรงถลุงแร่หายากที่กำลังคุยกันอยู่นี้คาดว่าจะสามารถทำได้ทั้งแร่หายากชนิดเบาและชนิดหนัก ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการผลิตวัตถุดิบที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงยุทโธปกรณ์ทางการทหาร
ทั้งนี้ แร่หายากชนิดหนักซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในการพัฒนาเทคโนโลยีสะอาดนั้นพบได้น้อยกว่า และแร่บางชนิดก็กำลังขาดแคลนหนัก
ในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา โจฮารี อับดุล กานี รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของมาเลเซียกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคและเทคโนโลยีในการแปรรูปแร่ธาตุหายาก
แต่ประธานาธิบดี "สี จิ้นผิง" ได้ขอให้จำกัดความร่วมมือไว้เฉพาะกับบริษัทของรัฐ เพื่อปกป้องความลับทางการค้า และเสริมว่าการหารือยังอยู่ในขั้นต้นโดยยังไม่มีข้อตกลงใดๆ
รมว.มาเลเซียย้ำว่า หากข้อตกลงนี้ประสบความสำเร็จ มาเลเซียจะกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีเทคโนโลยีการแปรรูปแร่ธาตุหายากทั้งจากจีนและประเทศอื่นๆ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 2 ตุลาคม 2568