ถึงเวลาก้าวข้ามกับดักประเทศไทย
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ซับซ้อนในหลายมิติ โดยไทยติดกับดักประเทศระดับรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) มาเป็นเวลานานกว่า 3 ทศวรรษ
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ รวมถึงภาระหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือนและการพัฒนาบุคลากร ซึ่งการพึ่งพาภาคการผลิตแบบเดิมที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำ ประกอบกับภาคเกษตรกรรมที่ยังคงความยากจน ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ
ภาคการผลิตไทยกำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนสำคัญ แม้ไทยจะเป็นฐานการผลิตสำคัญในภูมิภาคมานาน โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่ได้รับการขนานนามเป็น “ดีทรอยต์ ออฟ เอเชีย” เคยมียอดการผลิตรถยนต์ในไทยติด 10 อันดับแรกของโลก แต่การแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีต้นทุนแรงงานต่ำกว่าและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น ซึ่งไทยอยู่รอยต่อของการปรับตัว รวมถึงขาดการลงทุนวิจัยและพัฒนา การพัฒนาทักษะแรงงานที่ไม่ทันเทคโนโลยีใหม่ เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ไทยยกระดับสู่การผลิตที่มีมูลค่าสูงไม่ได้
สำหรับภาคเกษตรกรรม แม้แรงงานภาคการเกษตรกรจะมีสัดส่วนสูงเมื่อเทียบกับสาขาอื่น แต่มีส่วนแบ่งต่อ GDP เพียง 10% ซึ่งทำให้จำเป็นต้องเพิ่มผลิตภาพ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการผลิตภาคเกษตรยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างที่การถือครองที่ดินขนาดเล็ก การขาดการรวมกลุ่มที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และราคาสินค้าเกษตรที่ผันผวน ซึ่งทำให้เกษตรกรไทยติดอยู่ในวงจรความยากจนข้ามรุ่น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับโครงสร้างภาคการเกษตร
ในขณะที่ปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่พุ่งสูงเกือบ 90% ของ GDP เป็นสัญญาณเตือนภัยที่ชัดเจน แม้จะมีมาตรการพักชำระหนี้และปรับโครงสร้างหนี้มาตั้งแต่ช่วงวิกฤติโควิด-19 แต่ปัญหามาจากที่มีต้นเหตุจากรายได้ที่เติบโตช้าและความเหลื่อมล้ำที่สูง ส่วนหนี้สาธารณะใกล้แตะเพดาน 70% ของ GDP ทำให้พื้นที่ทางการคลังสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจแคบลง การใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะด้านสวัสดิการและการดูแลสังคมผู้สูงอายุ ขณะที่ฐานภาษีไม่ขยายตัวเพียงพอเป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลต้องปรับแผนการคลังใหม่
การก้าวข้ามกับดักเหล่านี้ต้องอาศัยการปฏิรูปเชิงโครงสร้างที่เด็ดขาดและมีเป้าหมายชัดเจน ไม่ใช่แค่มาตรการกระตุ้นระยะสั้นที่เน้นการจ่ายเงินแจกประชาชน ซึ่งแม้รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะยุบสภาภายใน 4 เดือน แต่จำเป็นต้องวางแผนรองรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พัฒนาทักษะแรงงานให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจใหม่ โดยรัฐบาลต้องประกาศอย่างเข้มแข็งถึงเป้าหมายถึงการก้าวขึ้นมาเป็นประเทศรายได้สูง
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 10 ตุลาคม 2568