ส่งออก "อินเดีย" ไปสหรัฐ วูบ 21% หลังถูกทรัมป์ เก็บภาษี 50%
ส่องออก "อินเดีย" เดือนก.ย.ไปสหรัฐ วูบ 21% จากเดือนก่อนหน้า เหตุถูกเก็บภาษี 50% เร่งทำดีลการค้ากับ "ยุโรป-สหราชอาณาจักร" กระจายความเสี่ยง
สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า การโจมตีด้านภาษีของรัฐบาลสหรัฐส่งผลกระทบต่อการส่งออกของอินเดียไปยังสหรัฐ ในเดือนก.ย.ให้ลดลงถึง 20.7% จากเดือนก่อนหน้า กว่า 5.44 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเดือนเต็มเดือนแรกที่มีการบังคับใช้ภาษีนำเข้าของสหรัฐ
มาตรการภาษีนี้ทำให้สินค้าอินเดียในสหรัฐมีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ซื้อชาวอเมริกันต้องขอส่วนลด ซึ่งผลกำไรของซัพพลายเออร์ชาวอินเดีย
แม้จะมีความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐ แต่ภาพรวมการส่งออกสินค้าของอินเดียกลับเพิ่มขึ้น 3.64% จากเดือนก่อน โดยมีมูลค่ารวม 36.38 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น 11.26% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน เป็น 6.85 หมื่นดอลลาร์ นั่นหมายความว่าการขาดดุลการค้าสินค้าของอินเดียได้ขยายตัวขึ้น 21.36% ไปอยู่ที่ 32.15 พันล้านดอลลาร์
หาตลาดใหม่ ’ตะวันออกกลาง-ยุโรป‘ :
จากสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐบริษัทอินเดียกำลังมองหาตลาดใหม่ ๆ รวมถึงตลาดในตะวันออกกลางและยุโรป
ปราญจูล พันฑารี (Pranjul Bhandari) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์อินเดียของ HSBC ได้กล่าวว่า "คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วขึ้นในเดือนกันยายน ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์นอกสหรัฐอาจเข้ามาช่วยชดเชยการลดลงของอุปสงค์จากสหรัฐ"
สรุปดีลการค้า ’อินเดีย- สหรัฐ’ กับนานาประเทศ :
อินเดียถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 50% หลังจากสหรัฐไม่พอใจกรณีการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อ้างว่า นี่เป็นการ "เติมเชื้อเพลิงให้แก่เครื่องจักรสงคราม" ในยูเครน
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และอินเดียเผชิญความตึงเครียดเนื่องจากประเด็นการค้าและประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่อินเดียปฏิเสธที่จะลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย และไม่ยอมเปิดตลาดภาคการเกษตรและผลิตภัณฑ์นมให้แก่สินค้าจากสหรัฐ ซึ่งทำให้การเจรจาการค้าไม่คืบหน้า อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีสัญญาณที่ดีขึ้น เมื่อเดือนที่แล้วคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ นำโดยคุณเบรนแดน ลินช์ ได้เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่การค้าอินเดีย นำโดยราเจช อัครวัล ที่กรุงนิวเดลี เพื่อหารือกัน
อินเดียยังคงเดินหน้าทำข้อตกลงการค้ากับประเทศอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ :
อินเดียได้ลงนามข้อตกลงการค้ากับสหราชอาณาจักรในเดือนกรกฎาคม โดยบรรลุข้อตกลงในการลดภาษีสินค้าตั้งแต่สิ่งทอไปจนถึงวิสกี้และรถยนต์ เพื่อแลกกับการเข้าถึงตลาดที่มากขึ้นสำหรับธุรกิจอินเดีย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการค้าระดับทวิภาคีอีก ราว 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในปี 2040 หนาลังจากที่นายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศได้ประกาศข้อตกลงทางธุรกิจและการลงทุนทวิภาคีเพิ่มเติมเมื่อต้นเดือนนี้
อินเดียกำลังดำเนินการทำข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) และหวังว่าจะสรุปการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ การเจรจาดังกล่าวได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นอีกครั้งในปี 2022 หลังจากหยุดชะงักไปเกือบหนึ่งทศวรรษ เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์กล่าวเมื่อวันพุธว่า อินเดียและ EU ได้จัดการเจรจาไปแล้ว 14 รอบ โดยรอบล่าสุดเกิดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 16 ตุลาคม 2568