สหรัฐไฟเขียวภาษี 0% เวียดนาม สินค้าบางรายการ
สหรัฐเผยแพร่กรอบข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม เสนอภาษี 0% สำหรับผลิตภัณฑ์บางรายการ โดยมีข้อแลกเปลี่ยน เวียดนามจะให้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงสินค้าอุตสาหกรรมและการเกษตรเกือบทั้งหมด
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม สหรัฐเปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงทางการค้าที่วางแผนร่วมกับเวียดนาม ระหว่างที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เยือนภูมิภาคอาเซียน ในห้วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน
ตามแถลงการณ์จากทำเนียบขาว ภายใต้กรอบข้อตกลง เวียดนามจะให้ “สิทธิพิเศษ” ในการเข้าถึงสินค้าอุตสาหกรรมและการเกษตรเกือบทั้งหมดที่สหรัฐส่งออกไปยังเวียดนาม ขณะที่สหรัฐจะเสนอภาษี 0% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่คัดเลือกไว้บางรายการ
แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่า ผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่มีการระบุว่า ข้อตกลงจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นในห้วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว และได้ลงนามในข้อตกลงทางการค้ากับเวียดนาม รวมไปถึงกัมพูชา มาเลเซีย และไทย ซึ่งล้วนได้รับการเสนอภาษี 0% บางรายการ โดยมีข้อแลกเปลี่ยน
ตามแถลงการณ์ของสหรัฐ เวียดนามตกลงที่จะดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ :
ยอมรับมาตรฐานยานยนต์ของสหรัฐ
ผ่อนปรนกฎการนำเข้า สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาของสหรัฐ
ปฏิบัติตามข้อผูกพันด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างประเทศ
อีกทั้งแถลงการณ์ยังระบุว่า ทั้งสองประเทศจะสรุปข้อผูกพันในส่วนของการค้าดิจิทัล บริการ และการลงทุนด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามกล่าวภายหลังว่า ฝ่าม มิงห์ จิ๋ง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้พบปะทรัมป์ในช่วงสั้น ๆ นอกรอบการประชุมอาเซียน และเป็นตัวแทนของ โต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งเป็นมีอำนาจสูงสุดของประเทศ เพื่อเชิญทรัมป์เดินทางมาเยือนเวียดนาม
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนในข้อตกลงทางการค้าของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ แนวทางที่สหรัฐใช้ในการจัดประเภท “ภาษีสวมสิทธิ” ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 40%
โดยเวียดนามต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด และเป็นแหล่งนำเข้าส่วนประกอบและวัตถุดิบหลักของเวียดนาม ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นภาษีสวมสิทธิ
เท็ด โอเซียส รองประธานอาวุโส สภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน (US-Asean Business Council) กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า นิยามของคำว่า “ภาษีสวมสิทธิ” คืออะไร ส่วนประกอบที่มาจากภายนอกต้องมีสัดส่วนเป็นกี่เปอร์เซ็นต์จึงจะถูกพิจารณาว่าเป็นภาษีสวมสิทธิ นี่คือประเด็นหลักที่ต้องให้ความสำคัญ
ก่อนหน้านี้ เวียดนามซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการส่งออกสินค้าหลายประเภท ตั้งแต่กาแฟ เสื้อผ้า ไปจนถึงชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เคยถูกสหรัฐขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 46% ก่อนจะปรับลดลงเหลือ 20% ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ยังถือเป็นอัตราที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย อยู่ 1%
เวียดนามตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างทะเยอทะยาน ไว้ที่อย่างน้อย 10% ในปี 2026 แม้ว่าความไม่แน่นอนทางการค้าทั่วโลกจะส่งผลคุกคามต่อการส่งออกและการไหลเข้าของการลงทุนก็ตาม
ในไตรมาสล่าสุด เศรษฐกิจของเวียดนามโตขึ้น 8.2% นับเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 3 ปี อันเนื่องมาจากโครงการต่าง ๆ ซึ่งเร่งการผลิตอย่างเต็มกำลัง เพื่อส่งสินค้าไปยังสหรัฐก่อนมาตรการภาษีจะมีผลบังคับใช้ อีกทั้งเวียดนามตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในปี 2025 ไว้ที่ 8.3-8.5%
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 27 ตุลาคม 2568

