รายงานยูเอ็นเผย ผลกระทบของเอไอ อาจทำให้ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวเอพีเปิดเผยรายงานฉบับใหม่ ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมระบุว่า ผลประโยชน์ส่วนใหญ่จากปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) มีแนวโน้มที่จะถูกเก็บเกี่ยวโดยประเทศร่ำรวย เว้นแต่จะมีการดำเนินการเพื่อใช้พลังงานของเอไอ ในการช่วยลดช่องว่างในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงความรู้ขั้นสูงดังกล่าวด้วย
รายงานฉบับนี้ได้เปรียบเทียบสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากการมาถึงของเอไอ กับเหตุการณ์ในอดีต ที่เรียกว่า “ความเหลื่อมล้ำครั้งใหญ่” (Great Divergence) ของยุค การปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ซึ่งการเปรียบเทียบนี้ชี้ให้เห็นว่า หากไม่มีมาตรการที่เหมาะสม เอไอก็อาจนำไปสู่ “ความเหลื่อมล้ำครั้งใหญ่ครั้งต่อไป” (Next Great Divergence) ซึ่งจะทำให้ความแตกต่างทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีระหว่างประเทศที่ก้าวหน้าและประเทศกำลังพัฒนากว้างขึ้นไปอีก ซึ่งผลลัพธ์ของ ความเหลื่อมล้ำครั้งใหญ่ คือการที่หลายประเทศตะวันตกมีการพัฒนาให้ทันสมัยอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ล้าหลัง
ทั้งนี้ แม้ว่า เอไอ จะมีผลต่อความกังวลเรื่องการจ้างงาน เนื่องจากมีบริษัทและหน่วยงานต่างๆ หันมาใช้เอไอแทนมนุษย์ เพราะเอไอมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงหรือแทนที่งานบางอย่างที่มนุษย์ทำโดยใช้คอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์แทน แต่ตอนนี้คำถามสำคัญไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ แต่เป็นผลกระทบที่เอไอ จะมีต่อความเป็นอยู่ และชีวิตของผู้คนทั่วโลก
ไมเคิล มูธุกฤษณะ จากสถาบันเศรษฐศาสตร์ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้เขียนหลักของรายงานดังกล่าว บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างการพูดผ่านวิดีโอในการเปิดตัวรายงานที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะที่เรามักให้ความสำคัญกับบทบาทของเทคโนโลยีมากเกินไป เราต้องมั่นใจว่า เทคโนโลยีไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผู้คนต้องมาก่อน
รายงานยังระบุว่า ชุมชนที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงประสบปัญหาในการเข้าถึงทักษะ ไฟฟ้า และการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ผู้สูงอายุ ผู้คนที่ต้องพลัดถิ่นเนื่องจากสงคราม ความขัดแย้ง และภัยพิบัติทางสภาพอากาศ ขณะเดียวกัน บุคคลกลุ่มนี้อาจกลายเป็นกลุ่มที่ถูกมองไม่เห็นของข้อมูล ที่ไม่ถูกนำมาพิจารณาในการพัฒนาเอไอ ในฐานะเทคโนโลยีอเนกประสงค์ เอไอสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กระตุ้นอุตสาหกรรมใหม่ๆ และช่วยให้ผู้ที่มาทีหลังตามได้ทัน
คำแนะนำที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการทำฟาร์ม การวิเคราะห์รังสีเอกซเรย์ ภายในไม่กี่วินาที การวินิจฉัยทางการแพทย์ที่เร็วขึ้น การพยากรณ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการประเมินความเสียหาย ล้วนเป็นความหวังสำหรับชนบทและพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ
“ระบบเอไอ ที่วิเคราะห์ความยากจน สุขภาพ และความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ช่วยให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น ยุติธรรมขึ้น และโปร่งใสขึ้น เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและสร้างคุณค่าสาธารณะ” รายงานระบุ
รายงานระบุอีกว่า แม้ในประเทศที่ร่ำรวยอย่างสหรัฐอเมริกา ศักยภาพของศูนย์ข้อมูลที่จะใช้ไฟฟ้าและน้ำมากเกินไป ก็ก่อให้เกิดความกังวล การเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า เพื่อตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้น อาจเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในการจำกัดการปล่อยคาร์บอน จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ขณะเดียวกัน ก็ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ เทคโนโลยี ยังได้ก่อเหตุให้ความกังวลด้านจริยธรรม ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยทางไซเบอร์ นักวิจัยพบว่า แฮกเกอร์ ใช้ เอไอ เพื่อควบคุมการโจมตีทางไซเบอร์บางส่วนโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาของการใช้ดีพเฟค ที่อาจให้ข้อมูลเท็จ หรือเอื้อต่อการก่ออาชญากรรม
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 2 ธันวาคม 2568

