ดีลการค้าอินโดนีเซีย-สหรัฐส่อล่ม โวย "จาการ์ตา" ไม่รักษาสัญญา
จนกระทั่งถึงขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถบรรลุความตกลงทางการค้า กับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปเพียงไม่กี่ประเทศ เท่าที่ประกาศให้เป็นที่รับรู้กัน นอกจาก มาเลเซียกับกัมพูชาแล้ว ก็มีเพียง อินโดนีเซียเท่านั้นที่สามารถเสนอในสิ่งที่สหรัฐอเมริกาพอใจจนบรรลุข้อตกลงดังกล่าวนั้นได้
จุดเริ่มของความตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อทางการวอชิงตัน ส่งจดหมายไปยังประเทศคู่ค้ารวมแล้วมากกว่า 20 ประเทศ ข่มขู่ว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าที่นำเข้าจากแต่ละประเทศเหล่านั้นในอัตราสูง ถ้าหากแต่ละประเทศไม่สามารถเจรจาทำความตกลงทางการค้ากับสหรัฐอเมริกาให้ลุล่วงได้ภายในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ในกรณีของอินโดนีเซียนั้น จดหมายจากสหรัฐอเมริการะบุเอาไว้ว่า จะปรับพิกัดอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าที่นำเข้าจากอินโดนีเซียทั้งหมดขึ้นเป็น 32 เปอร์เซ็นต์ ในกรณีที่ไม่สามารถบรรลุความตกลงกันได้
เป็นที่มาของการเจรจาทำกรอบความตกลงทางการค้าระหว่างกันขึ้นในเวลาต่อมา โดยฝ่ายอเมริกันประกาศการบรรลุความตกลงดังกล่าวเมื่อเดือนกรกฎาคม และพร้อมกันนั้นก็ประกาศลดอัตราภาษีสำหรับสินค้าจากอินโดนีเซียลงเหลือ 19 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ปรากฏรายงานข่าวออกมาเมื่อต้นเดือนธันวาคมนี่เองว่า ยิ่งนานวันเข้าเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ยิ่งไม่พอใจพฤติกรรมของฝ่ายอินโดนีเซียมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะในส่วนที่แสดงให้เห็นว่า อินโดนีเซีย กำลังทำทุกอย่าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรักษาพันธสัญญาหลายประการตามความตกลงที่ทำไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 17 ธันวาคม 2568

