คณะกรรมาธิการยุโรป จะนำเสนอแผนในวันพุธ (1 ก.พ.) ที่ทำให้ยุโรปสามารถแข่งขันสหรัฐในฐานะศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและสินค้าต่างๆ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการพึ่งพาจีนได้

 

นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยนประธานคณะกรรมาธิการยุโรป คาดว่าจะประกาศกฎระเบียบเพื่อผ่อนคลายการให้ความช่วยเหลือทางการค้ากับสหรัฐ โดยมุ่งไปที่กองทุนสหภาพยุโรปที่มีอยู่ และจะเร่งอนุมัติโครงการสีเขียวเร็วขึ้น เพื่อเสริมสร้างทักษะมากขึ้นพร้อมกับมีการลงนามข้อตกลงทางการค้าเพื่อรับประกันการจัดหาวัตถุดิบที่สำคัญ

 

แผนการนี้เป็นส่วนหนึ่งมุ่งตอบสนองการทำการค้ากับจีนและสหรัฐที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึงเพื่อจัดการเงินเฟ้อในปัจจุบัน

 

ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) หลายคนแสดงกังวลต่อเนื้อหาข้อกำหนดในประเทศเกี่ยวกับเงินอุดทุนสีเขียว มูลค่า 3.69  แสนล้านดอลลาร์ที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนบริษัทต่างๆย้ายฐานการผลิต ซึ่งจะทำให้สหรัฐเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสีเขียว แต่ใช้เงินสนับสนุนของยุโรป

 

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศคาดว่า ตลาดพลังงานสะอาดทั่วโลกจะสามารถผลิตพลังงานสะอาดในจำนวนมาก ซึ่งจะเพิ่มขึ้นสามเท่าหรือประมาณ 6.5 แสนล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2573 โดยที่สหภาพยุโรปต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการดังกล่าว

 

ในแผนระยะสั้น สมาชิกอียูสามารถใช้กู้เงินจำนวน 2.25 แสนล้านยูโร หรือประมาณ 2.44 แสนล้านดอลลาร์ ที่เหลือจากกองทุนฟื้นฟูหลังโควิด 8 แสนล้านยูโร ส่วนในระยะยาว คณะกรรมาธิการฯ จะเสนอให้จัดตั้ง "กองทุนความมั่นคงแห่งยุโรป" (European Sovereignty Fund) เพื่อลงทุนในเทคโนโลยีเกิดใหม่ 

 

อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คณะกรรมาธิการจะเสนอกฎหมายอุตสาหกรรมเน็ตซีโร่ที่มีบทบาทในการปรับปรุงกระบวนการอนุญาตและปรับมาตรฐานให้สอดคล้องกัน และข้อกำหนดรับวัตถุดิบ (Critical Raw Materials) เพื่อส่งเสริมการสกัด การแปรรูป และการรีไซเคิลในท้องถิ่น

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566