ประธานหอค้า หวั่น ตั้งรัฐบาลช้า งบ67 ลากยาว-ผวารอถึง มี.ค.67
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ผลการเลือกตั้งออกมาแสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวและความต้องการของประชาชนที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศในการอยากเห็นรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารงานนับจากนี้
ขณะเดียวกันกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลก็มีความชัดเจนและเป็นไปในทิศทางที่ดีโดยสามารถจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลักดันกฎหมายที่สำคัญต่างๆ ส่วนข้อกังวลของหลายส่วนต่อการรวมเสียงเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีซึ่งพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ โดยกำลังเป็นกระแสอยากให้ ส.ว.เข้ามาร่วมโหวตสนับสนุนนั้น หอการค้าฯมองว่าหากพรรคแกนนำได้มีการนำเสนอประเด็นและหลักการให้มีความชัดเจน เน้นสร้างความเข้าใจเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
นายสนั่น กล่าวว่า เชื่อว่า ส.ว.จะมีการพิจารณา และให้การสนับสนุน ซึ่งทุกฝ่ายหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่คงจะเป็นไปด้วยความรวดเร็วและราบรื่น ขณะที่มุมมองภาคธุรกิจปัจจุบันยังมีความรู้สึกไม่แน่นอน และไม่ชัดเจนว่าทิศทางของรัฐบาลชุดใหม่จะเป็นอย่างไร สะท้อนได้จากทิศทางของตลาดหุ้นที่ยังไม่ได้ตอบสนองต่อผลการเลือกตั้ง นี่จึงเป็นความกังวลที่หอการค้าฯ เห็นว่าจำเป็นต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด
นายสนั่นกล่าวถึงนโยบายของว่าที่พรรคแกนนำรัฐบาลและพรรคร่วมว่า ได้เห็นภาพของนโยบายใหม่ๆ โดยเฉพาะการปฏิรูปกฎหมายที่ล้าสมัย นโยบายด้านเศรษฐกิจปากท้อง การเพิ่มสวัสดิการประชาชน และนโยบายการศึกษามีความโดดเด่น
จึงเชื่อว่าจะตอบโจทย์สถานการณ์ของประเทศที่กำลังต้องการแรงเสริมเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้ ส่วนการวางตัวบุคคล มีความน่าสนใจ จะได้เห็นทีมบริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดใหม่ๆ ผสานกับบุคลากรที่มีประสบการณ์ทั้งในด้านการเมือง ธุรกิจ ของสองพรรคแกนนำ ภาคเอกชนอยากเห็นหลังจากรัฐบาลสามารถจัดตั้งได้ คือ
1).การลดต้นทุนภาคธุรกิจ ลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ทั้งค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ
2).นโยบายเกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูเอสเอ็มอี, สตาร์ตอัพ ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสินเชื่อ
3).นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
4).เดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะด้านดิจิทัล เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
นายสนั่นกล่าวว่า ในการประชุมหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศ ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคมนี้ ที่จังหวัดตรัง สมาชิกหอการค้าไทย และหอการค้าภาคใต้ 14 จังหวัด ได้หยิบยกประเด็นข้อเสนอเพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการ โดยเห็นว่าการเข้าถึงสินเชื่อและแหล่งเงินทุนเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน
โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านเครดิตบูโร และเครดิตสกอริ่ง เป็นปัญหาหลักทำให้ผู้ประกอบการยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการขึ้นค่าแรง ภาคธุรกิจยังเห็นว่าจำเป็นต้องใช้กลไกของคณะกรรมการไตรภาคีแต่ละจังหวัดเข้ามามีส่วนกำหนดค่าแรงเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และไม่เป็นภาระด้านต้นทุนของภาคธุรกิจ
“ที่ประชุมยังมีข้อกังวลการจัดตั้งรัฐบาล ต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด หากยืดเยื้อถึงเดือนสิงหาคมนี้จะกระทบต่อการพิจารณางบประมาณประจำปี 2567 ทำให้การอนุมัติงบประมาณอาจจะลากยาว กว่าจะได้ใช้งบประมาณอาจจะถึงเดือนมีนาคมปีหน้า” นายสนั่น กล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 20 พฤษภาคม 2566