หอการค้าไทย-เทศ ลุ้นได้รัฐบาลใหม่ตามไทม์ไลน์ หนุนจีดีพีโต 3%
"สนั่น" ประธานหอการค้าฯ เผย 40 หอการค้าต่างชาติในไทยห่วงจัดตั้งรัฐบาลยังมีทิศทางไม่ชัดเจน หวั่นกระทบเชื่อมั่นลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ-แก้ปากท้อง ลุ้นได้รัฐบาลใหม่ตามไทม์ไลน์ นโยบายชัด ชี้หากเครื่องไม่สะดุดมั่นใจจีดีพีไทยปีนี้โตได้ 3%
ในโอกาสร่วมแสดงความยินดี ครบรอบ 23 ปีเนชั่นทีวี ของ "นายสนั่น อังอุบลกุล"ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” และสื่อในเครือเนชั่น
ทั้งนี้ นายสนั่นได้เผยถึงเบื้องลึกในหลากหลายประเด็นที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะผู้บริหารพรรคเข้าหารือ และแลกเปลี่ยนความเห็นกับคณะผู้บริหารหอการค้าไทย เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นายสนั่น เผยว่า ในการหารือครั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ มีการถกประเด็นสำคัญเกี่ยวกับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทต่อวัน ที่ได้มีการปรับจูนความเข้าใจซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกันเรื่องค่าไฟฟ้าที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายปรับลดค่าไฟฟ้า (จะปรับลดลง 70 สตางค์ต่อหน่วย)คงต้องพิจารณาร่วมกันระหว่างภาครัฐกับเอกชน ซึ่งคงจะได้มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
อย่างไรก็ดีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นายพิธาต้องการทำให้เศรษฐกิจในประเทศเติบโตได้ควบคู่กับต่างประเทศ ขณะที่ทางหอการค้าไทยได้ตอกย้ำว่า ในระยะสั้นไทยต้องกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 เรื่อง 1.การส่งออกที่เรายังต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศ 2.การท่องเที่ยว ที่ฟื้นตัวชัดเจน และ 3.การดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยที่ยังต้องทำต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทั้งคนไทยและต่างประเทศที่จะมีการลงทุนในไทยต่อไป และจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจภายในของประเทศไม่เกิดการสะดุด และทำให้เศรษฐกิจปากท้องของประชาชนได้ไม่ต้องมีความกังวลมาก
ประธานกรรมการหอการค้าไทย ยังยืนยันว่า ค่าแรงหรือค่าจ้างขั้นต่ำไม่ควรปรับขึ้นเป็น 450 บาทต่อวันทันทีใน 100 วันตามที่พรรคก้าวไกลได้หาเสียงไว้ ซึ่งทางหอการค้าฯได้ให้ข้อคิดไปว่ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การปรับขึ้นต้องดูจังหวะเวลา และในอัตราความเหมาะสม ที่ผ่านมามีกลไกไตรภาคีของแต่ละจังหวัดในการพิจารณาการปรับขึ้นค่าจ้างอยู่แล้ว
“ทางหอการค้าไทยได้แสดงถึงสถิติในช่วงที่ผ่านมาที่ได้มีการปรับขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ(สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อปี 2556) ทำให้สะดุดตั้ง 4 ปี ค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ปรับขึ้นเลย 4 ปีหลังจากนั้น ซึ่งเราก็ได้เรียนรู้อะไรต่าง ๆ มากมาย เอสเอ็มอีก็เดือดร้อนมาก”นายสนั่น กล่าว และเผยอีกว่า
นายพิธาได้มาอธิบายเรื่องไทม์ไลน์ โดยระบุ น่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในประมาณเดือนกันยายน ซึ่งทางหอการค้าฯเอง ก็มีการเร่งรัดว่าการจัดตั้งรัฐบาลต้องเร็ว 8 พรรคต้องจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดการชะลอการลงทุนจากต่างประเทศ และการจัดทำงบประมาณรายจ่ายของประเทศสะดุด โดยภาพรวมจะทำให้เกิดความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งนายพิธาชี้ว่าเวลานี้มีตัวแปรอยู่ เฉพาะอย่างยิ่งต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะรับรองการเลือกตั้งได้เร็วแค่ไหน และการเปิดสภาจะทำได้ตามไทม์ไลน์ที่ตั้งไว้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต่างชาติได้มาสอบถามสถานการณ์ทางการเมือง และการจัดตั้งรัฐบาลของไทยหรือไม่ นายสนั่นตอบว่า เนื่องจากมีหอการค้าต่างชาติประมาณ 40 ประเทศ อยู่ภายใต้การดูแลของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และยังมีสถานทูต สถานเอกอัครราชทูตประเทศสำคัญ ๆ อยู่ในนี้ ก็ได้มีการพูดคุยกับทางหอการค้าฯว่า ความกังวลเขาตอนนี้ก็คือ รัฐบาลใหม่จะจัดตั้งได้เมื่อไร ขณะเดียวกันนโยบายของรัฐบาลที่จะมาบริหารประเทศจริง ๆ แล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งส่วนตัวคิดว่าถ้าเราจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วที่สุด และนายกรัฐมนตรีคนใหม่สามารถที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้ ก็จะช่วยให้ทุกอย่างมีความชัดเจนขึ้น
สำหรับความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ ต้องการให้มากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็ดูแลปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งนายพิธาต้องการให้เศรษฐกิจภายในโตของมันเองได้ แต่อันนี้อาจจะเป็นระยะกลาง ระยะยาวก็เห็นด้วย แต่ระยะสั้นคงต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ การดูแลต่างชาติที่จะมาลงทุนในเมืองไทยต้องทำให้มีอิมแพ็คที่แรงมาก เนื่องจากไทยเราจะพึ่งเฉพาะการส่งออกอย่างเดียวคงไม่พอ ส่วนการท่องเที่ยวมาดีอยู่แล้ว แต่แรงส่งคือการทำให้ต่างชาติมาลงทุนที่ประเทศไทยให้เร็วที่สุดและให้มากที่สุด
“นโยบายพรรคก้าวไกล ตอบโจทย์การลงทุนต่างชาติหรือไม่ เรื่องนี้เราได้ย้ำให้คุณพิธาที่มาพบว่า ขอให้มีความชัดเจนว่า EEC (เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) เราทำต่อแน่นอน อย่างนี้เป็นต้น ขณะนี้ชาวต่างชาติลังเลใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากมีความกังวลว่า นโยบายค่าแรง 450 บาทจะทำทันทีหรือเปล่า ค่าไฟฟ้าเราก็ยังสูงกว่าชาวบ้าน และยังมีนโยบายหรือสิทธิประโยชน์เป็นอีกเรื่องสำคัญของรัฐบาลที่เขาจะใช้ในการพิจารณาตัดสินใจ รวมถึงความโปร่งใสในการทำงานของรัฐบาลด้วย”
นายสนั่น ย้ำตอนท้ายว่า การมาพบของนายพิธาและคณะครั้งนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความสร้างสรรค์ เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ นายพิธาได้รับทราบเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลต่าง ๆ และข้อกังวล และข้อดี-ข้อเสียเป็นอย่างไรบ้าง โดยมีกลไกของการปรับค่าแรงของแต่ละจังหวัดในระบบไตรภาคีอยู่แล้ว หากมาช่วยกันลงในรายละเอียดก็จะเป็นทางออกที่ดีและเป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงมาจากประชาชน ฉะนั้นต้องฟังเสียงประชาชนของแต่จังหวัด และของทั่วประเทศด้วย
"นโยบายเรื่อง EEC เรื่อง FTA เรื่องลงทุน เป็นสิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องสานต่อ ซึ่งในเรื่อง FTA คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ทำเสร็จแล้วเรื่อง FTA กับ UAE และขณะนี้ FTA กับ EU ก็อยู่ในระหว่างทางที่คิดว่าน่าจะประมาณปีครึ่งจะสำเร็จ ขณะนี้ผมคิดว่าประเทศไทยเรามีเสน่ห์มาก เพียงแต่เราต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จจะทำให้ชาวต่างชาติมีความมั่นใจว่ารัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพ ทั้งนี้หากเราไม่สะดุดเกี่ยวกับเรื่องการเมืองที่ทำให้เกิดการชะลอทางเศรษฐกิจ ก็คิดว่าเศรษฐกิจไทยที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัวในปีนี้ จีดีพีน่าจะขยายตัวได้ที่ 3.0% อย่างแน่นอน"
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 1 มิถุนายน 2566