"ททท." ชี้การเมืองระอุไม่กระทบคนเที่ยว หวั่นงบล่าช้าป่วนแผนกระตุ้นตลาด
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ แห่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ความไม่แน่นอนทางการเมือง ทั้งการที่พรรคเพื่อไทยถอนตัวออกจา 8 พรรคร่วมรัฐบาล และจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกล และการโหวตนายกรัฐมนตรีที่ลากยาวออกไป จะเป็นผลทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงที่มีความรุนแรงขึ้นหรือไม่นั้น มองว่าตอนนี้คนที่มีความคิดต่างทางการเมืองค่อนข้างมีวุฒิภาวะ คงไม่เกิดเหตุการณ์ใช้กำลังทะเลาะกันบนถนนแล้ว จึงมองโลกในแง่ดีว่าคงไม่ได้ส่งผลไปสู่ความรุนแรงในระยะถัดไป แต่มองกลับกันหากมีภาพความรุนแรงเกิดขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในเชิงที่ประชาชนเกิดความเหนื่อยหน่าย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็อาจมองภาพลักษณ์ของประเทศไทยไม่ดีเท่าที่ควร
“หากรัฐบาลจัดตั้งล่าช้าออกไปจะส่งผลกระทบต่องบประมาณปี 2567 ส่วนนี้จะกระทบกับการกระตุ้นตลาด โดยเฉพาะในช่วงที่หลายประเทศทั่วโลกหันมากระตุ้นดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบจัดเต็มมาก ทำให้ททท.รอไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อของฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ที่จะเข้ามาในช่วงปลายปี 2566 ด้วย เพราะการทำตลาดทั้งการสร้างภาพลักษณ์ และการทำกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ความสนุกสนามกลับมา ก็ต้องใช้เงินงบประมาณเข้ามาช่วย” นางสาวฐาปนีย์ กล่าว
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า การเมืองจะถือเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่งผลให้เป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวพลาดเป้าไปหรือไม่ เบื้องต้นจากการประเมินขณะนี้ การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศยังไม่เห็นผลกระทบ ทุกคนยังอยากเดินทางเที่ยวอยู่ แต่ในตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังต้องดูและบริหารความเสี่ยงต่อไป ทั้งตลาดใหม่ รวมถึงตลาดท่องเที่ยวระยะใกล้และไกลที่เป็นเป้าหมายในการทำตลาดหลักของไทยต่อไป
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท. ปรับแผนที่จะเพิ่มกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ถึง 4,000 บาทต่อคนต่อทริปไปปี 2567 จากเดิมที่จะผลักดันให้สำเร็จภายในปีนี้ เนื่องจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวไทยในปีนี้มีการเดินทางเที่ยวหลายทริปมากขึ้น ไม่ได้เดินทางทริปเดียวเหมือนที่ผ่านมา เพราะถ้าเดินทางทริปเดียวครั้งเดียวก็จะใช้จ่ายเยอะภายในครั้งเดียว แต่เมื่อมีการเดินทางมากกว่าหนึ่งครั้ง และ ททท. ได้มีการมีโปรโมทการเดินทางท่องเที่ยว 365 วันทำให้เกิดการกระจายทริป แม้จะมีการใช้จ่ายน้อยลงแต่มีการเดินทางท่องเที่ยวหลายทริปมากขึ้น โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวไทยมีกำลังซื้อเฉลี่ย 2,800-3,200 บาทต่อคนต่อทริป
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วง 7 เดือน ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางแล้ว จำนวน 135 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 478,411 แสนล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาสะสมอยู่ที่ 14.9 ล้านคน สร้างรายได้ท่องเที่ยว 744,132 ล้านบาท รวมมีรายได้แตะ 1.222 ล้านล้านบาท ทำให้อัตราการเข้าพักฟื้นขึ้นมาที่ 75% แต่อาจยังไม่ได้ฟื้นตัวเท่ากันทั่วประเทศ
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 4 สิงหาคม 2566