ห้ามพลาดกับงาน Thailand Mega Fair 2023 เพื่อขยายธุรกิจไปซาอุดีอาระเบีย
ห้ามพลาดโอกาสที่ดีของปีในการออกบูธ เพื่อขยายธุรกิจไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย กับงาน Thailand Mega Fair 2023 ระหว่างวันที่ 13-16 ธันวาคม 2566
ซาอุดีอาระเบีย ประเทศที่มีศักยภาพที่น่าจับตาและกำลังได้รับความสนใจทั้งในระดับนานาชาติรวมทั้งจากนักธุรกิจชาวไทย ในขณะที่ เศรษฐกิจโลก กำลังถดถอย แต่เศรษฐกิจซาอุดีอาระเบียกลับเติบโตแบบสวนกระแส ทั้งยังเติบโตเร็วที่สุดในรอบ 10 ปี พร้อมปักหมุดเป็น "ฮับ" ของภูมิภาคตะวันออกกลางในอีก 7 ปี นับต่อจากนี้ "บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน)" ผู้สร้างสรรค์ธุรกิจเทรดแฟร์และเอ็กซ์ซิบิชันมืออาชีพในภูมิภาคอาเซียน ร่วมกับ "สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย" จัดงาน Thailand Mega Fair 2023 – The Kingdom of Saudi Arabia ในวันที่ 13-16 ธันวาคม 2566 ณ The Arena Riyadh กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและบริการของไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในซาอุฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสใหม่ทางธุรกิจขยายโอกาสทางการค้าการลงทุน หาคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้า ขยายดิสทริบิวเตอร์ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปยังประเทศซาอุฯ โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ในไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า อาทิ สยามพิวรรธน์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย BDMS SCG International ฯลฯ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นับจากที่รัฐบาลได้เดินหน้าฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศซาอุฯ มาแล้ว 1 ปีนั้น เราได้เห็นการพัฒนาและยกระดับความร่วมมือในทุกมิติ ถือว่าเป็นการเปิดศักราชใหม่ที่ทำให้ประเทศไทยและซาอุฯ เกิดการแลกเปลี่ยนการค้า การลงทุน และมิติอื่นๆ มากยิ่งขึ้น โดยเห็นได้จากการที่ประเทศซาอุฯ มีการลงทุนในโครงการ Mega Project หลายโครงการ เช่น สายการบินใหม่ Neom-เมืองนวัตกรรมบนผืนทราย The Line และกิจกรรมบันเทิงอีกมากมาย ทั้งนี้ ประเทศซาอุฯ ถือเป็นประเทศหลักในตลาดน้ำมันโลกส่งผลต่อ เศรษฐกิจโลก อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นหนึ่งในสมาชิก G20 จึงเป็นโอกาสของภาคเอกชนไทยในการเดินหน้ากระชับสัมพันธ์ภาพเชิงรุกกับซาอุฯ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการไทย ได้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งประเทศซาอุฯ เป็นตลาดที่กำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ประกอบไทยและในระดับนานาชาติ โดยสถิติการส่งออกสินค้าของไทยไปยังตลาดซาอุฯ มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด รวมทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวจากซาอุฯ ที่เข้าไทยก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งคาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวซาอุฯ จำนวน 150,000 คน และสร้างรายได้ถึง 12,000 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ประกอบการไทย รวมทั้งผู้ประกอบการกลุ่ม SME และนักลงทุน อาจใช้โอกาสนี้ในการเจาะตลาดและขยายเขตการค้าไปสู่ซาอุฯ และภูมิภาคตะวันออกกลางมากยิ่งขึ้น
"สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เชื่อว่า Thailand Mega Fair 2023 จะเป็นเวทีที่ยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้เป็นที่รู้จักในซาอุฯ และตะวันออกกลางมากยิ่งขึ้น เป็นโอกาสเชื่อมโยงทางการค้าระหว่าง ผู้ผลิตซัพพลายเออร์ ผู้จัดจำหน่าย ทั้งกลุ่มธุรกิจ B2B และ B2C ของทั้งสองประเทศ และถือเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในตลาดตะวันออกกลางที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง ตลอดจนเป็นก้าวสำคัญของการขยายการค้า การลงทุน ระหว่างไทยและซาอุฯ ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไป" นายสนั่น กล่าว
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เผยว่า หลังจากที่จัดงานแถลงข่าวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ต่างให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยวัดจากการจองพื้นที่ภายในงาน อาทิ สยามพิวรรธน์ SCG International BDMS มาม่า สถาบันการบินพลเรือน โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเวชธานี โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงพยาบาลเอเซีย พานาซี เมเดิคอล เซ็นเตอร์ วิทยาศรม ยาดมตราโป๊ยเซียน รีโว่เมด ซี แวลู แม่น้ำ กรุ๊ป ไฮคิว ข้าวตราหงษ์ทอง คาเฟ่อเมซอน ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ สตาร์แอร์ แอร์อามีน่า เข็มเหล็ก และผู้ประกอบการชั้นน้ำด้านน้ำมันจากไม้กฤษณาหลากหลายบริษัท เป็นต้น ยอดการจองพื้นที่จากผู้ประกอบการชั้นนำมากกว่า 100 บูธ บนพื้นที่มากกว่า 6,000 ตารางเมตร ไทยถือเป็นประเทศส่งออกป้อนตลาดซาอุฯ ที่มีความสำคัญลำดับที่ 15 และเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับชาติ ASEAN-5 ด้วยกัน และระบบเศรษฐกิจซาอุฯ กำลังปรับเปลี่ยนไปสู่แนวทางที่อิงกับตลาด ภายใต้วิสัยทัศน์ Saudi Vision 2030 การปฏิรูปนี้ก่อให้เกิดการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของ ซาอุดีอาระเบีย เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จากขณะนี้มีสัดส่วนเพียง 1 ใน 4 ซึ่งคาดว่าจะครองพื้นที่ธุรกิจได้ประมาณ 35% ของ GDP ในอีก 7 ปีข้างหน้านี้ ซาอุฯ มีเป้าหมายเพื่อดึงความเป็น "ฮับ" เชื่อมต่อต่อไปยังเอเชียกลาง แอฟริกา และยุโรปตอนใต้
"สำหรับงาน Thailand Mega Fair 2023 นี้ถือเป็นงานแสดงสินค้าที่เป็นประตูสู่โอกาสทางการค้า เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย สามารถนำสินค้าและบริการขยายตลาดไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย และภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีกำลังซื้อสูง โดยมีความสนใจผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย มีโอกาสในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและเป็นสินค้าที่สอดรับกับวิสัยทัศน์ Saudi Vision 2030 ของซาอุฯ ที่มีมากกว่า 4,700 โครงการ แน่นอนว่าผู้ประกอบการไทยมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการขยายธุรกิจในเมกะโปรเจกต์นี้ได้ อาทิ ผู้ประกอบการในกลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มสินค้าเทคโนโลยีการเกษตร กลุ่มสุขภาพและการแพทย์ กลุ่มเครื่องสำอาง กลุ่มท่องเที่ยวและบริการ กลุ่มพลังงาน หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ รวมถึงกลุ่มรถยนต์ อุปกรณ์และชิ้นส่วนยานยนต์ แน่นอนว่าในอนาคตการส่งออกของไทยไปยังตลาดซาอุฯ อาจมีโอกาสแตะระดับ 1.2 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว บริษัทฯ จึงเล็งเห็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทย สามารถขยายตลาดเพื่อเปิดการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ เป็นงานที่รวบรวมผู้ประกอบการ นักลงทุนด้านต่างๆ ที่ต้องการจะขยายและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น โดยมีแนวคิดหลักคือ เพิ่มโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ขยายโอกาสทางการค้าการลงทุน หาคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้า ขยายดิสทริบิวเตอร์ เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและต้องการสินค้าไทยจำนวนมาก ทางบริษัทฯ คาดหวังมีผู้สนใจเข้าชมงาน 8,000 คน"
ห้ามพลาดโอกาสในการออกบูธ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ในงาน Thailand Mega Fair 2023 – Saudi Arabia จัดขึ้นระหว่าง 13-16 ธันวาคม 2566 ณ The Arena Riyadh กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย งานแสดงสินค้าและบริการของไทย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ซาอุดีอาระเบีย ที่ได้รวบรวมสินค้าและบริการนวัตกรรมจากประเทศไทยทุกด้าน ไปสู่ใจกลางของกำลังซื้อที่ทรงพลังที่สุดในตะวันออกกลาง รีบจับจองโอกาสที่ดีที่สุดของปีเพื่อเพิ่มโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ขยายโอกาสทางการค้าการลงทุน หาคู่ค้า พันธมิตรทางการค้า และขยายดิสทริบิวเตอร์
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 28 สิงหาคม 2566