กกร. หั่น GDP ปีนี้โต 3% ส่งออกหดตัว หวังรัฐบาลเร่งอัดมาตรการลดค่าครองชีพ
กกร. หั่นเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.5-3% ส่งออกอยู่ในแดนลบ หดตัว 0.5-2% หวังรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนมาตรการลดค่าครองชีพทันที เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยว โดยเฉพาะฟรีวีซ่าและเพิ่มเที่ยวบิน
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด กกร.จึงปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2566 ว่าจะมีแนวโน้มเติบโตได้ที่ 2.5-3.0% ซึ่งต่ำกว่าประมาณการเดิม เนื่องจาดเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 เติบโตเพียง 1.8% ต่ำกว่าที่คาดไว้มากว่าจะอยู่ที่ 3.1%
โดยภาคเศรษฐกิจที่อ่อนแรง ได้แก่ ภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่มีการหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับมูลค่าการส่งออกที่ติดลบต่อเนื่องมา 10 เดือน และติดลบแทบทุกหมวด ทำให้คาดว่าการส่งออกทั้งปีจะอยู่ในแดนลบ หดตัวอยู่ในกรอบ 0.5-2.0% ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐที่หดตัวต่อเนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่มีแนวโน้มล่าช้า
ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยว พบว่ายังต่ำกว่าที่คาดเนื่องจากการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังต่ำกว่าปกติอยู่ราว13% และค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของคนไทยที่เที่ยวในประเทศ ลดลงจากปกติราว 30%
ทั้งนี้ ปัจจัยกดดันสำคัญจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ในเดือนส.ค.ของประเทศหลักยังหดตัว ขณะที่กิจกรรมเศรษฐกิจในภาคบริการอ่อนแรงลงต่อเนื่อง
โดยเฉพาะจุดเปราะบางสำคัญคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากปัญหาการผิดนัดชำระหนี้และกำลังซื้อที่หดตัวในภาคอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 5% เท่านั้นและมีแนวโน้มจะลดลงในปีหน้า เศรษฐกิจโลกจึงได้รับแรงกดดันและส่งผลให้ภาคการส่งออกของไทยยังมีอุปสรรคในการฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวยังเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาสที่เหลือ ที่ประชุมกกร. มองว่า การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน จึงเสนอให้มีการเร่งรัดและออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะมาตรการ ฟรีวีซ่าโดยเร็ว รวมทั้งการเพิ่มเที่ยวบิน และการประชาสัมพันธ์เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าประเทศอย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ รัฐควรมีมาตรการเพื่อเร่งขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยในปี 2566 ยังสามารถเติบโตได้ โดยการเร่งขับเคลื่อยมาตรการด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ ในระยะสั้นเร่งลดภาระค่าครองชีพ รายจ่ายค่าไฟและราคาน้ำมันเพื่อกำลังซื้อในประเทศ การผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน
ขณะเดียวกัน ยังต้องพิจารณามาตรการเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนการส่งออกไปยังตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตได้ รวมถึงเร่งจัดทำมาตรการเพื่อเสริมสร้างรายได้ ให้กับ SMEs และครัวเรือนเพื่อแก้ปัญหาภาระหนี้ได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 7 กันยายน 2566