หอการค้าไทยจับตาใกล้ชิดสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ห่วงทวีความรุนแรงและขยายวงกระทบการค้า 4 หมื่นล้านไทย-อิสราเอล ลุ้นไม่ลามกลุ่มตะวันออกกลาง แนะผู้ประกอบการจับตาใกล้ชิดและวางแผนบริหารความเสี่ยง

 

การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ ปะทุขึ้นอีกครั้ง ตัวเลขผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บเริ่มสูงขึ้น ขณะที่มีแรงงานไทยเสียชีวิต และถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งรัฐบาลไทยได้เตรียมช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในการนำคนไทยกลับบ้าน ขณะที่องค์กรระหว่างประเทศเร่งหาทางออก ผลกระทบตามมาจากการสู้รบที่ยังดุเดือดทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น  ห่วงกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย ที่อิสราเอลและตะวันออกกลาง เป็นตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ

 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยว่า เหตุการณ์ที่อิสราเอล ทางหอการค้าไทย ขอแสดงเสียใจและห่วงใยต่อทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะคนไทยที่ได้รับผลกระทบ  สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้น อยากให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด รวมถึงบริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่มีการทำการค้ากับกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ต้องมีความระมัดระวังเพราะอาจจะมีผลกระทบเพิ่มเติมหากมีการขยายวงกว้างขึ้นจากความขัดแย้งครั้งนี้

 

อย่างไรก็ดีในเบื้องต้นคาดเหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่กระทบต่อการค้าไทย-อิสราเอลมากนัก เพราะการค้าระหว่างกันไม่มาก โดยช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ส.ค. 2566) การค้าไทย-อิสราเอล มีมูลค่า 29,288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (จากปี 2565 การค้าไทย-อิสราเอลมีมูลค่า  49,182 ล้านบาท) คาดทั้งปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 40,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.2-0.3% ของการค้าไทยกับโลก

 

“ที่น่าห่วงคือ ปัจจุบันมีแรงงานไทยไปทำงานในอิสราเอลมากถึงประมาณ 30,000 คน ซึ่งรัฐบาลไทยได้เตรียมอพยพคนไทยไว้แล้ว ซึ่งหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถเจรจาเพื่อหาแนวทางแก้ไขและหาทางออกร่วมกันอย่างสันติได้”

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร ในปี 2565 การค้าไทย-อิสราเอลมีมูลค่ารวม 49,182.10 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21.50% โดยไทยส่งออก 29,727.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.16% นำเข้า 19,454.64 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 34.73% ขณะที่ช่วง 8 เดือนแรกปี 2566 การค้าไทย-อิสราเอลมีมูลค่ารวม 29,288.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออก 18,562.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.38% นำเข้า 10,725.86 ล้านบาท ลดลง 14.16% ไทยเกินดุลการค้าอิสราเอล 7,836.43 ล้านบาท

 

สำหรับสินค้าส่งออกของไทยไปอิสราเอล 5 อันดับแรก ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, อัญมณีและเครื่องประดับ, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป, ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และข้าว ส่วนสินค้านำเข้าของไทยจากอิสราเอล 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ, ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์, เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ, แผงวงจรไฟฟ้า และผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 9 ตุลาคม 2566