เจาะลึก บอร์ดเอลนีโญ ประเมินโลกร้อน โลกรวน ไทยกระทบหนัก 7 ด้าน
ประเทศไทยในยุคโลกเดือด ใต้เงารัฐบาล "เศรษฐา ทวีสิน" คณะกรรมการรับสถานการณ์เอลนีโญ ประเมินโลกร้อน โลกรวน กระทบชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจ ในฤดูแล้งแรุนแรง 7 ด้าน
ขณะเดียวกัน นายเศรษฐา กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการสภาพภูมิอากาศ (Climate Ambition Summit) ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 78 (UNGA78) สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยจะผลักดันไทยยกเลิกใช้ถ่านหิน เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด พื้นที่สีเขียว ขับเคลื่อนกรีนไฟแนนซ์
การประชุมคณะกรรมการเพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญ (El Nino) และ ลานีญา (La Nina) ของประเทศไทย ครั้งที่ 1/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญและลาณีญาของประเทศไทย ประกอบคณะกรรมการจำนวน 21 ราย โดยมี รองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานกรรมการ และอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นกรรมการและเลขานุการ นอกจากนี้ยังมีการพิจารณา ยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ และเป้าหมายการทำงาน
ในการประชุม นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองประธานกรรมการ ชี้แจงสภาวะอากาศของโลก ความเปลี่ยนแปลง และผลกระทบต่างๆ ระบุว่า โลกร้อนขึ้นแน่นอน โลกรวนมีความแปรปรวน ทั้งที่สามารถคาดการณ์ได้และไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก มีมหาสมุทรอยู่ 2 ฝั่ง ฝั่งตะวันออก คือมหาสมุทรแปซิฟิก โดยทะเลจีนใต้ ฝั่งตะวันตก คือมหสุทรอินเดีย โดยทะเลอันดามัน
ดังนั้นประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจาก 2 มหาสมุทรที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันได้ภายใน 10 นาที - 1 ชั่วโมง ความแปรปรวนจึงมีสูงมากจนบางครั้งไม่สามารถแก้ไขได้ทัน ผลกระทบที่สำคัญจะกระทบชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจ
ประเทศไทยจึงต้องบริหารความเสี่ยง เตรียมความพร้อมเพื่อเผชิญเหตุความแห้งแล้งที่รุนแรงและยาวนาน เพราะปรากฎการณ์เอลนีโญจะเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งจะแสดงความรุนแรงชัดเจนในช่วงฤดูแล้งและจะแสดงความรุนแรงมากขึ้นในปีต่อๆไป โดยความเสียหายที่จะเกิดขึ้น กระทบ 7 ด้าน
ระบบนิเวศป่าไม้
* ป่าดิบชื้นเปลี่ยนเป็นป่าดิบแห้ง
* แอ่งซับน้ำตามไหล่เขาจะเหือดแห้ง
* ต้นนำจะไม่มีน้ำซับและน้ำใต้ดิน
* เศษใบไม้จะพอกพูนเป็นเชื้อไฟป่า
* จะมีไฟป่าขนาดใหญ่
* หญ้าและทุ่งหญ้าจะหมดไป สัตว์เท้ากีบจะอดยาก และต่อเนื่องไปถึงสัตว์กินเนื้อ
* ช้างจะออกอาละวาดหนัก กว่า 2,500 ตัว
* น้ำตกจะเหือดแห้ง
ระบบนิเวศทางน้ำ
* อ่างเก็บน้ำจะเหลือน้ำแค่ท้องอ่างทำชลประทานไม่ได้และไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้
* คลอง หนอง บึง จะเหือดแห้ง
* Wetland (พื้นที่ชุ่มน้ำ ) จะถูกทำลาย
* ฝั่งคลองและแม่น้ำจะสไลด์ (ไม่มีน้ำกั้น)
* น้ำทะเลจะสูงขึ้น
* พืชน้ำจะตาย สัตว์ขนาดเล็กก็ตาย ปลาตามธรรมชาติจะขาดอาหาร
* ปลาน้ำจืดและสัตว์น้ำจืดตาย
* ปลาที่ขายตามตลาดสดจะเน่าเสียเร็วเพราะอากาศร้อน
ระบบนิเวศทางอากาศ
* อากาศจะร้อนและแห้งจัด
* ฝุ่นจะกระจายไปทั่วโดยเฉพาะตามถนน
* P.M 2.5 จะรุนแรง
* เกิดไฟไหม้ง่ายขึ้น
* นกจะเข้ามาอาศัยตามวัด/บ้านเรือน
การประมง
* ปลาตามธรรมชาติจะตาย
* ปลาในกระชังเลี้ยงไม่ได้
* ปลาตามบ่อเลี้ยงไม่ได้
* ปลาน้ำจืดขาดแคลนมีราคาสูง
* นกน้ำจะล้มตาย
* พายุ ถ้ามีจะรุนแรงมาก
* น้ำท่วมจะท่วมเฉพาะพื้นที่
ปศุสัตว์
* การเลี้ยงสัตว์ในทุ่งทำไม่ได้อีกต่อไป
* โรงเลี้ยงจะร้อนมาก สัตว์จะตาย
* อาจจะมีโรคระบาดแปลกๆ เกิดขึ้น
* ราคาเนื้อสัตว์จะแพง
* เนื้อสดที่ขายตามตลาดจะเน่าเสียเร็ว เนื่องจากอากาศที่ร้อน
การเกษตร
* ไม้ผลจะตายหรือไม่มีผลผลิต
* พืชไร่ที่ใช้น้ำมากอย่าง เช่นข้าว จะเหลือที่ปลูกน้อย
* ดินจะแข็งไถยากขึ้น
* ผลผลิตพืชทุกชนิดจะลดลงราคาอาจสูงขึ้น
* วัชพืชจะเกิดได้เร็ว
* อาจมีโรคอุบัติใหม่
* ผลไม้ที่เก็บแล้วจะสุกเร็วมาก
* ระยะเวลาที่เกษตรกรอยู่ในไร่จะน้อยลง ทำให้ได้ผลผลิตน้อยลง
น้ำกินน้ำใช้
* ขาดแคลนไม่พอใช้
* ไม่มีเลย
* คุณภาพน้ำไม่ดี
ทั้งนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและระบบเศรษฐกิจ หากเกิดขึ้นยาวนาน 3 ปีขึ้นไป ต้องปรับตัว (Adaptation) ด้วยการจัดทำยุทธวิธี ดังนี้
* ติดตามประเมินสถานการณ์รายวัน และสรุปแบบรายสัปดาห์ รายเดือน และรายปีเพื่อให้ทราบและเข้าใจในภาพรวม
* จัดทำแถลงการณ์ ประกาศสถานการณ์พื้นที่ภัยพิบัติ มีการประชาสัมพันธ์ให้ขาวที่แม่นยำ ชัดเจน เข้าใจง่าย โดยมีการเดินทางไปตรวจสอบยืนยันว่าอยู่ในสภาวะที่ต้องประกาศการเตือนภัย
* เตรียมแผนเผชิญเหตุ เพื่อลดผลกระทบ
* เตรียมทำแผนช่วยเหลือฟื้นฟูและเยียวยา
* เตรียมทำแผนการปรับตัว (Adaptation) สำหรับระยะยาว
* จัดสัมมนาทางวิชาการเพื่อระดมความคิดและจัดทำคลังข้อมูลแห่งชาติ
* ประสานข้อมูลจากต่างประเทศ
* ให้ใช้ระบบเทคโนโลยีสาระสนเทศให้เกิดประสิทธิภาพที่สุดและใช้ระบบเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารข้อมูล
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 30 ตุลาคม 2566