10 อันดับเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ปี 2023
เมืองที่อยู่แล้วมีคุณภาพชีวิตที่ดี มักจะพ่วงมาด้วยค่าครองชีพที่สูง พร้อมกับรายได้ของผู้คนในเมืองที่สูงด้วยเช่นกัน
อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (Economist Intelligence Unit: EIU) หน่วยธุรกิจวิจัยของ ดิ อีโคโนมิสต์ (The Economist) เผยแพร่รายงานค่าครองชีพทั่วโลกประจำปี 2023 (Worldwide Cost of Living 2023) ซึ่งเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการมากกว่า 200 รายการ จาก 400 จุดการสำรวจ ใน 173 เมื่องทั่วโลก ในช่วงวันที่ 14 สิงหาคม ถึง 11 กันยายน 2023
การสำรวจนี้มีข้อค้นพบที่น่าสนใจหลายอย่าง อย่างเช่น หลายเมืองในประเทศจีนเป็นหนึ่งในบรรดาเมืองที่มีการเปลี่ยนอันดับมากที่สุด โดยสาเหตุหลักมาจากการที่จีนฟื้นตัวช้าหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ลดลง
มีเมืองในสหรัฐติดท็อป 10 เพียง 3 เมืองเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “นิวยอร์ก ซิตี้” ที่ร่วงจากอันดับ 1 ลงเป็นอันดับที่ 3 ร่วม แม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา สหรัฐเผชิญเงินเฟ้อสูง เป็นเหตุให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องขึ้นดอกเบี้ยสูงสู้เงินเฟ้อจนสะเทือนไปทั้งโลก
ขณะที่เมืองในญี่ปุ่นค่าครองชีพถูกลง-อันดับร่วงลงมาก เพราะเงินเยนอ่อนค่า
โดยภาพรวม EIU กล่าวว่า ราคาสินค้าและบริการโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7.4% ผลกระทบด้านอุปทานที่ผลักดันให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นในปี 2021-2022 ได้ลดลงแล้วนับตั้งแต่จีนยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ในปลายปี 2022 ขณะที่ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากรัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ก็ผ่อนคลายลงแล้วเช่นกัน ในระยะถัดไป แม้ว่าจะยังมีความเสี่ยงขาขึ้น แต่ EIU คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะชะลอตัวลงอีกในปี 2024 และจะทำให้ราคาสินค้าทั่วโลกผ่อนคลายลง
สำหรับ 10 อันดับเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกในปี 2023 นี้ ได้แก่
อันดับ 1 : สิงคโปร์ (สิงคโปร์)
อันดับ 1 : ซูริก (สวิตเซอร์แลนด์)
อันดับ 3 : เจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์)
อันดับ 3 : นิวยอร์ก (สหรัฐอเมริกา)
อันดับ 5 : ฮ่องกง (เขตปกครองพิเศษของจีน)
อันดับ 6 : ลอสแอนเจลิส (สหรัฐอเมริกา)
อันดับ 7 : ปารีส (ฝรั่งเศส)
อันดับ 8 : โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)
อันดับ 8 : เทลอาวีฟ (อิสราเอล)
อันดับ 10 : ซานฟรานซิสโก (สหรัฐอเมริกา)
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566