ศูนย์นวัตกรรมมิเอะ ประเทศไทย ทำอะไรบ้างตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ครบรอบ 5 ปี ศูนย์นวัตกรรมมิเอะ-ประเทศไทย ความสัมพันธ์จากทั้ง 2 ประเทศ ไทย-ญี่ปุ่น ร่วมกันพัฒนาผู้ประกอบการ ขยายกรอบการทำงานสู่อาหารแห่งอนาคต ยกระดับเกษตรอุตสาหกรรมแปรรูป ตั้งเป้าต่อยอดพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์อาหารแห่งอนาคตร่วมกัน หวังเกิดการค้า การลงทุน เพิ่มสัดส่วนส่งออกกลุ่มสินค้าอาหารแปรรูปของไทยขึ้นกว่า 60% มูลค่า 1.32 ล้านล้านบาท ภายในปี 2570
วันที่ 12 มกราคม 2567 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ต่อยอดความร่วมมือกับจังหวัดมิเอะ ในการมุ่งเน้นพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านนวัตกรรมอาหาร ผ่านศูนย์นวัตกรรมมิเอะ-ประเทศไทย (Mie-Thailand Innovation Center) ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สถาบันอาหาร และจังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น
เพื่อช่วยยกระดับความสามารถการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย และเสริมสร้างความแน่นแฟ้นของการเชื่อมโยงระหว่างภาคอุตสาหกรรมของทั้ง 2 ประเทศ ให้สามารถก้าวหน้าไปด้วยกันในลักษณะ win-win ทั้งยังส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการค้า การลงทุนระหว่างไทยและญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการของ
ล่าสุด ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช จาก Isolate soy protein กับ Pea starch และนำมาทดลองปรุงอาหารเป็นเมนูกระเพาะปลาน้ำแดง เพื่อสอดรับแนวโน้มตลาดอาหาร Plant-based ที่กำลังมาแรง ซึ่งคาดว่าระหว่างปี 2566-2576 ตลาดอาหารโลกจะเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 12.2% โดยในปี 2566 ที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง 11.3 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ประเทศไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์และความร่วมมือกันในทุก ๆ มิติมาอย่างยาวนานซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย เห็นได้จากการลงทุนของญี่ปุ่นในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 40% ของการลงทุนจากต่างชาติทั้งหมด กระทรวงอุตสาหกรรม จึงให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นในการส่งเสริม และพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของสองประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารที่ได้มุ่งเน้นยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับเวทีโลก
โดย ศูนย์นวัตกรรมมิเอะ-ประเทศไทย (Mie-Thailand Innovation Center) ยังทำหน้าที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งนับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดียิ่งขึ้น และช่วยผลักดันให้การส่งออกสินค้ากลุ่มอาหารแปรรูปของไทยเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าไทยจะมีสัดส่วนการส่งออกกลุ่มสินค้าอาหารแปรรูปเพิ่มขึ้น 60% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.32 ล้านล้านบาท ภายในปี 2570
นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ศูนย์นวัตกรรมมิเอะ-ประเทศไทย จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2561 เป็นหนึ่งในเครือข่ายของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ITC) ที่กระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายสถาบันอาหารดำเนินการ โดยได้ติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับการแปรรูปอาหารที่ได้รับจาก บริษัท ซูเอฮิโระ อีพีเอ็ม (SUEHIRO EPM) ประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้เพื่อช่วยยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทย ในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารต้นแบบให้มีศักยภาพ และเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร ดังนั้นศูนย์นวัตกรรมนี้ ถือเป็นกรณีความสำเร็จที่เป็นผลลัพธ์จากการร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในปี 2558 ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม และจังหวัดมิเอะ
จึงได้ขยายความร่วมมือโดยการแลกเปลี่ยนกรอบการทำงาน (Framework Exchange) ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและจังหวัดมิเอะ เพื่อต่อยอดความร่วมมือจากใน MOU ที่มุ่งเน้นการขยายโอกาสธุรกิจของ SMEs ทั้ง 2 ประเทศ สู่ระดับสากลด้วยการพัฒนาสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูป ทักษะบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต ยกระดับเกษตรอุตสาหกรรมแปรรูป ตลอดจนเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานหมุนเวียน ที่เป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเตรียมพร้อมรับกระแสความเปลี่ยนแปลงในบริบทต่าง ๆ และอยู่รอดได้ในโลกยุคใหม่
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ศูนย์นวัตกรรมมิเอะ-ประเทศไทย ได้ดำเนินกิจกรรมทางวิชาการร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง และการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากการใช้เครื่อง Twin Screw Extruder เพื่อช่วยยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทย ในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารต้นแบบ ให้มีศักยภาพและเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร และกิจกรรมอื่น ๆ
อาทิ การจัดแสดงผลิตภัณฑ์อาหารที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีจากเครื่อง Twin Screw Extruder ณ งาน THAIFEX 2019 การเข้าร่วมงานสัมมนาที่จังหวัดมิเอะ รวมทั้งนำผู้ประกอบการไทยร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และสร้างเครือข่ายกับผู้ซื้อของประเทศญี่ปุ่น ณ จังหวัดมิเอะ
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 12 มกราคม 2567