"สนั่น" มองความขัดแย้งปมไต้หวัน ยังไม่กระทบภาคธุรกิจไทย-จับตาใกล้ชิด
ประธานฯ หอการค้าไทย เผย ความขัดแย้งจีน-สหรัฐ-ไต้หวัน ไม่กระทบภาคธุรกิจไทย เชื่อเป็นโอกาสเพิ่มการส่งออก เตรียมความพร้อมหากมีการขยายฐานผลิตมายังไทย และติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว TOPNEWS ถึงสถานการณ์ปมความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐ กรณีไต้หวันว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่น่านำไปสู่การทำสงครามของทั้งสองประเทศ เพราะประเทศจีนยังได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ขณะที่ประเทศไทย ได้มีการแสดงจุดยืนชัดเจนว่า เป็นประเทศที่เป็นกลาง และต้องการเห็นความสงบสุขเกิดขึ้น ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการเมืองที่มีผลกระทบกับเศรษฐกิจโดยทั่วไป
“ ได้คุยกันแบบไม่ทางการกับกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงต่างประเทศก็มีจุดยืน ว่าเราจะเป็นประเทศที่วางตัวเป็นกลาง ในการที่อยากจะเห็นสันติภาพระหว่างประเทศมหาอำนาจด้วยกัน “ นายสนั่น กล่าว
ทั้งนี้ แม้ว่าในระยะสั้นๆ จะเห็นการตอบโต้ทางด้านเศรษฐกิจ และการซ้อมรบจากประเทศจีน โดยเฉพาะการที่จีนจะไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมยกเลิกความร่วมมือทั้ง 8 ด้าน กับสหรัฐ ขณะที่ไต้หวันจะได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ไม่นำสินค้าจากไต้หวันเข้าประเทศ การเก็บภาษีต่างๆปัญหาซัพพลายเชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ส่งวัตถุดิบทรายไปไต้หวันจะส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างในไต้หวัน รวมทั้งการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ หรือ ชิปที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ส่งผลทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนชิปเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมตามมา
นายสนั่น กล่าวว่า “ของประเทศจีนมี Rare Earth ซึ่งอันนี้สำคัญมาก ที่จะต้องส่งไปประเทศต่างๆ ในการทำพวกชิป อุปกรณ์ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือวัตถุดิบเกี่ยวกับเทคโนโลยี ส่วนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ระบบซัพพลายเชน จะมีผลกระทบ ซึ่งไทยต้องอาศัยชิ้นส่วนพวกนี้อยู่แล้ว แต่ผลกระทบต่อไทยตอนนี้ยังไม่เห็น เห็นแล้วมีดี มากกว่าเสีย“
นายสนั่น กล่าวอีกว่า ความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐ ซึ่งจีนได้ตอบโต้ด้วยการยกเลิกความร่วมมือกับสหรัฐ รวมถึงการไม่ส่งสินค้าที่เกี่ยวกับอุปโภค-บริโภค ไปยังสหรัฐฯ อาจทำให้สหรัฐฯเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่ขณะนี้สูงอยู่แล้วจะได้รับผลกระทบทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงมากยิ่งขึ้น และมองว่าความขัดเเย้งที่เกิดขึ้นจะส่งผลดีต่อประเทศไทย ในการส่งสินค้าไปทดแทนจากที่ไต้หวันส่งไปยังจีนได้ รวมถึงการที่นักลงทุนจากจีนเลือกประเทศไทย เป็นประเทศที่จะขยายฐานการผลิตเข้ามาด้วย
“ ผมคิดว่าเราคงไม่ได้รับผลกระทบทั้งโดยทางตรง ทางอ้อม ทางลบ อาจจะเป็นโอกาสสำหรับไทยมากกว่า เนื่องจากเราสามารถจะส่งสินค้า โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ผลไม้ สินค้าอย่างอื่น ไปทดแทนจากที่ไต้หวันส่งไปที่จีน ขณะเดียวกัน ที่เราต้องอาศัยพวกชิปมาประกอบรถยนต์ในไทย จริงๆ แล้วปีนี้ เราน่าจะส่งออกยานยนต์ไปต่างประเทศมากขึ้น แต่เนื่องจากเราขาดชิปที่จะมาประกอบ ตรงนี้ก็อาจทำให้ไต้หวันซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในโลก ไม่อาจส่งชิปไปที่จีนได้ ซึ่งเราอาจได้รับอานิสงค์จากส่วนนี้ด้วย “ นายสนั่น กล่าว
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของไทยนั้น นายสนั่นระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและธุรกิจ รวมถึงอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย แต่ทั้งนี้ จะต้องติดตามเรื่องการเผชิญหน้ากันระหว่างจีนและสหรัฐฯจะมีข้อสรุปเช่นไร เพราะจากกระเเสข่าวสหรัฐ มีท่าทีในการประนีประนอมกับจีน ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม นายสนั่น ยืนยันว่า ในส่วนของภาคธุรกิจนั้น ยังไม่มีความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่กลับมองเป็นโอกาสในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน รวมถึงการเตรียมความพร้อมหากมีการขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอีกด้วย
ที่มา top news online
วันที่ 9 สิงหาคม 2565