เศรษฐกิจบอลยูโร
เตรียมนับถอยหลังกันแล้ว กับการฟาดแข้งศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2024
สังเวียนหนนี้จัดที่ประเทศเยอรมนี ตอนแรกคนไทยน่าจะได้ดูผ่านกล่อง “ทรู” หรือแอปพลิเคชั่นของเจ้านี้เท่านั้น แน่นอนว่าต้องเสียเงินเข้าระบบ แม้จะเพียง 200 กว่าบาทเศษ ตลอดทัวร์นาเมนต์ แต่คนไทยคุ้นเคยกับการชมถ่ายทอดสด ผ่านฟรีทีวีมากกว่า
รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่ทำให้ผิดหวัง ร่วมมือกับเจ้าเก่าเจ้าเดิม “แอโร่ซอฟ” บริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด ที่เคยเป็นเจ้าภาพสายฟ้าแลบ ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2020 ครั้งนั้นคนไทยคาดว่าจะไม่ได้ดูถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีแล้ว เพราะตอนแรกไม่มีใครยื่นซื้อลิขสิทธิ์เลย แต่ก่อนแข่ง 1-2 วัน “แอโร่ซอฟ” ก็จัดให้แบบเนียน ๆ
ส่วนปีนี้รัฐบาล เป็นเจ้าภาพ เปิดโต๊ะคุยกับแอโร่ซอฟ รวมถึงภาคเอกชนอื่น ๆ อาทิ บางกอกแอร์เวย์ส ปตท. และไทยเบเวอเรจ หรือช้าง จนในที่สุดสามารถปิดดีล ถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีได้สำเร็จ
การมาถึงของมหกรรมฟุตบอลยูโร ไม่เพียงสร้างกระแสฟีเวอร์ให้คนไทยและทั่วโลกที่คลั่งไคล้ฟุตบอลเท่านั้น แต่ในภาคเศรษฐกิจถือว่ามีความสำคัญ ในการกระตุ้นการจับจ่าย กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องอาศัยช่วงเวลานี้จัดแคมเปญ ดึงกำลังซื้อ เห็นชัด ๆ ไม่พ้นทีวี เพราะหลายคนอาจตัดสินใจซื้อจอใหญ่ขึ้นเพื่อชมภาพได้เต็มตา
สถานบันเทิงต่าง ๆ ทั้งร้านอาหาร ผับ บาร์ ก็โปรโมตหวังดึงคนเข้าร้านมาร่วมชมถ่ายทอดสด เช่นเดียวกับอาหาร เครื่องดื่ม พลอยขายดิบขายดีไปด้วย ยิ่งหากเป็นคู่ดึก ที่ได้อานิสงส์ไม่พ้นกลุ่มไรเดอร์ เพราะคนอาจขี้เกียจออกมาหาของกิน กดสั่งผ่านแอปสะดวกกว่า เรียกว่าการแข่งขันระดับฟุตบอลยูโร หรือฟุตบอลโลก สามารถสร้างเม็ดเงินได้มหาศาล และยังกระจายไปหลายภาคส่วน อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ
ประเมินกันว่า ยูโร 2024 น่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในเมืองไทย ราว ๆ 18,000 ล้านบาท ขณะที่ภาคตลาดหุ้น มีตัวเลขน่าสนใจว่า ทุก ๆ 2 ปีที่จัดแข่งขันฟุตบอลโลก และฟุตบอลยุโรป สลับกันนั้น หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทั้งทางตรงและทางอ้อม จะมีผลตอบแทนที่ดีขึ้น
ข้อมูลการวิเคราะห์จาก บล.บัวหลวง และ บล.กรุงศรี มองตรงกัน สินค้าหลักที่ความต้องการพุ่งสูงขึ้นในช่วงแข่งขัน ประกอบด้วย อาหารและเครื่องดื่ม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์กีฬา
หุ้นตัวเด่น ๆ อาทิ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ได้รับผลบวก เนื่องจากมีกิจการโรงแรมในยุโรปจำนวนมาก
กลุ่มส่งออกสินค้าไปยุโรป กลุ่มเกษตรอาหาร เช่น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF), บมจ.เบทาโกร (BTG), บมจ.จีเอฟพีที (GFPT), บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ต่างรับผลบวกไปตาม ๆ กัน
ส่วนในไทยที่ได้อานิสงส์เป็นกลุ่ม เชนอาหารใหญ่ ๆ เช่น บมจ.เอส แอนด์ พี ซินดิเคท (SNP), บมจ.เอ็นเอสแอล ฟูดส์ (NSL), บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) และ CPALL, BJC ฯลฯ
น่าสนใจว่าเมื่อดูสถิติย้อนหลังปี 2564 หรือปี 2021 ที่เลื่อนจัดแข่งยูโร 2020 จากสถานการณ์โควิด-19
ภาพรวมหุ้นหลัก ๆ เหล่านี้ให้ผลตอบแทนเหนือตลาดที่ 1% ขณะที่ดัชนี SET ในปีนั้น ติดลบ 5.3% ด้วยหลายปัจจัยเหล่านี้ ทำให้การแข่งขันฟุตบอลยูโร และฟุตบอลโลก จึงมีผลไม่เพียงความสนุกสนาน แต่ยังช่วยผลักดันด้านเศรษฐกิจ การบริโภค อย่างรวดเร็วและรุนแรงในเวลาสั้น ๆ เพียง 1 เดือนเท่านั้น
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 8 มิถุนายน 2567