"UAE" ครองที่ 1 สวรรค์คนรวย สวนทาง "จีน" มีเศรษฐีหนีออกประเทศมากที่สุด
"UAE" ครองแชมป์อันดับ 1 ดึงดูดเศรษฐีไหลเข้าสุทธิมากที่สุดเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน คาดมีเศรษฐีไหลเข้าสุทธิ 6,700 คน ภายในปีนี้จนแซงหน้าสหรัฐ ส่วน "จีน" คาดว่ามีเศรษฐีอพยพออกมากที่สุด
สำนักข่าว CNBC รายงานอ้าง Henley Private Wealth Migration Report ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.67 ว่า “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” (UAE) กำลังจะกลายเป็น “แหล่งดึงดูดความมั่งคั่งอันดับหนึ่งของโลก” เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยคาดว่าจะมีเศรษฐีไหลเข้าสุทธิมาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนถึง 6,700 คนจากทั่วโลกภายในสิ้นปี 2567
ขณะที่อันดับที่สอง ตกเป็นของ “สหรัฐ” โดยคาดว่าจะมีเศรษฐีไหลเข้าสุทธิ 3,800 คน ภายในสิ้นปี ซึ่งคิดเป็นเพียงประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนเศรษฐีที่ไหลเข้าสู่ UAE
ตามรายงาน คาดการณ์ว่าในปี 2567 จะมีเศรษฐีหรือบุคคลที่มีมูลค่าสินทรัพย์สภาพคล่องในการลงทุน 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป ราว 128,000 คน จะย้ายถิ่นฐานออกจากประเทศ โดยแซงหน้าสถิติเดิมที่ 120,000 คนของปีที่แล้ว และกำลังจะเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ในการย้ายถิ่นฐานของความมั่งคั่งทั่วโลก
โดมินิค โวเลค (Dominic Volek) หัวหน้ากลุ่มลูกค้าบุคคลของ Henley & Partners กล่าวว่า “การย้ายถิ่นฐานของเศรษฐีจำนวนมากนี้ เปรียบเสมือนสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิทัศน์โลก และโครงสร้างอำนาจทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างไกลต่อเส้นทางอนาคตของประเทศที่พวกเขาจากไป หรือประเทศที่พวกเขาเลือกเป็นบ้านหลังใหม่”
UAE ครองอันดับ 1 ขวัญใจของเหล่าเศรษฐี :
สำหรับรายชื่อ 10 ประเทศที่คาดว่าจะมีการ 'ไหลเข้าสุทธิ' ของเศรษฐีสูงที่สุดในปี 2567 ตามข้อมูลของ Henley and Partners มีดังนี้
1. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ +6,700 ราย
2. สหรัฐอเมริกา +3,800 ราย
3. สิงคโปร์ +3,500 ราย
4. แคนาดา +3,200 ราย
5. ออสเตรเลีย +2,500 ราย
6. อิตาลี +2,200 ราย
7. สวิตเซอร์แลนด์ +1,500 ราย
8. กรีซ +1,200 ราย
9. โปรตุเกส +800 ราย
10. ญี่ปุ่น +400 ราย
เหตุผลที่ UAE ขึ้นอันดับ 1 ในฐานะแหล่งหลบภัยสำหรับผู้ที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสูงทั่วโลก เป็นเพราะนโยบายทางภาษีที่เอื้ออำนวยของประเทศ ทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานระดับโลก รวมถึงมี “วีซ่าทองคำ” ที่ดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถให้มาอาศัยอยู่ในประเทศ โดยมอบสิทธิพำนักระยะยาวให้กับนักลงทุนต่างชาติ ผู้ประกอบการ และบุคคลที่มีความสามารถ ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญ นักศึกษา และนักวิจัย ที่สร้างการลงทุนสำคัญให้กับประเทศด้วย
โวเลคเสริมต่อว่า “ขณะที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่รุนแรงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความวุ่นวายทางสังคม เหล่าเศรษฐีต่างแสดงจุดยืนด้วยการย้ายถิ่นฐานกันเป็นจำนวนมาก พวกเขากำลังมองหาพื้นที่ ที่ปลอดภัย และมั่นคงยิ่งขึ้นสำหรับทรัพย์สิน และผลประโยชน์ของครอบครัว”
จีนเจ็บหนัก คนรวยแห่ขนสินทรัพย์ออกมากที่สุด :
ขณะที่รายชื่อ 10 ประเทศหรือดินแดนที่คาดว่าจะมีการ 'ไหลออกสุทธิ' ของเศรษฐีมากที่สุดในปี 2567 ได้แก่
1.จีน -15,200 ราย
2.สหราชอาณาจักร - 9,500 ราย
3.อินเดีย - 4,300 ราย
4.เกาหลีใต้ - 1,200 ราย
5.สหพันธรัฐรัสเซีย - 1,000 ราย
6.บราซิล - 800 ราย
7.แอฟริกาใต้ - 600 ราย
8.ไต้หวัน - 400 ราย
9.ไนจีเรีย - 300 ราย
10.เวียดนาม - 300 ราย
ตามรายงานคาดว่า “จีน” จะมีเศรษฐีอพยพออกมากที่สุดสูงถึง 15,200 คนภายในสิ้นปีนี้ สหราชอาณาจักรตามมาเป็นอันดับสอง คาดว่าจะมีเศรษฐีออกจากประเทศสุทธิ 9,500 คน ส่วนอินเดีย คาดว่าจะมีเศรษฐีออกจากประเทศ 4,300 คนในปีนี้
“ทั้งจีน และอินเดียกำลังประสบปัญหานักลงทุนย้ายออกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากความสำเร็จของเศรษฐกิจประเทศที่สร้างเศรษฐีใหม่ๆ ขึ้นมา แต่เมื่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงในช่วงปีที่ผ่านมา จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์เศรษฐีอพยพออกจากประเทศมากที่สุด
ส่วนเศรษฐีชาวอินเดียมักจะย้ายออกจากอินเดีย เพื่อไปหาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และสะอาดกว่า รวมถึงการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และการศึกษาที่พรีเมียม” ดร.ฮันนาห์ ไวท์ (Dr. Hannah White) ผู้อำนวยการและซีอีโอของสถาบัน Institute for Government แห่งสหราชอาณาจักรกล่าว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 20 มิถุนายน 2567