AOT ดัน "สุวรรณภูมิ" เป็นต้นแบบ Green Airport สนามบินรักษ์โลกแห่งแรกในไทย
AOT ติดตั้ง Solar Cell บนหลังคาอาคารผู้โดยสาร มุ่งลดความร้อนภายในอาคารลดลงมากกว่า 7 องศา พร้อมลดการใช้พลังงานระบบความเย็นในอาคาร 2% ชี้ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากกว่า 3,600 ตันต่อปี เทียบเท่าต้นไม้ 3.6 แสนต้นต่อปี
วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้นโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่วางเป้าหมายผลักดันท่าอากาศยานของไทยให้ติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่สุดในโลก โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้มีการเพิ่มศักยภาพของสนามบิน ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 150 ล้านคนต่อปี เพื่อก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบิน Aviation Hub
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ ทสภ. ภายใต้การดูแลของ AOT นั้น ได้มีการมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อน ทสภ. สู่การเป็นต้นแบบ Green Airport หรือท่าอากาศยานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งแรกในประเทศไทย โดย ทสภ. มีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานอย่างต่อเนื่อง มีระบบการจัดเก็บข้อมูล การจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลที่ดี โดยนำเทคโนโลยีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้ในท่าอากาศยาน

นอกจากนี้ ยังเป็นท่าอากาศยานแห่งแรกที่ติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ หรือ Solar Cell ซึ่งในระยะแรกติดตั้งบนหลังคาอาคารผู้โดยสารขนาดกำลังผลิต 4.408 เมกะวัตต์ เปิดใช้ในปี 2566 ซึ่งสามารถทำให้ความร้อนภายในอาคารผู้โดยสารลดลงมากกว่า 7 องศา ลดการใช้พลังงานระบบความเย็นภายในอาคารได้ 2% คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 11 ล้านบาทต่อปี สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 3,600 ตัน CO2e ต่อปี หรือเทียบเท่ากับจำนวนต้นไม้ 360,000 ต้นต่อปี ที่ต้องใช้ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์
ขณะที่ ปัจจุบัน AOT อยู่ระหว่างเตรียมการติดตั้ง Solar Cell ระยะที่ 2 ภายในพื้นที่ ทสภ. มีขนาดกำลังผลิตรวมเพิ่มขึ้นอีก 33.41 เมกะวัตต์ ทั้งในรูปแบบของการติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) และการติดตั้งบนผืนน้ำ (Solar Floating) ซึ่งเมื่อดำเนินการทั้ง 2 ระยะเสร็จสิ้น จะทำให้ ทสภ.มีขนาดกำลังผลิตถึง 37.81 เมกะวัตต์ และสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ถึง 555,686.271 ตัน COe ตลอดอายุโครงการ 20 ปี
อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินโครงการดังกล่าว AOT ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ร่วมกันวางแผนพัฒนาและทดสอบหลากหลายขั้นตอนเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานในระดับสากล และมั่นใจได้ว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุด ปลอดภัย ไม่กระทบต่อการบินและการควบคุมการจราจรทางอากาศตามกฎขององค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration: FAA) ตลอดจนมั่นใจได้ว่าไม่กระทบต่อตัวอาคารแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความสะดวกสบายรวดเร็ว และสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้บริการ สนามบินต้องปรับปรุงให้มีความทันสมัย ซึ่งต้องคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมตามกระแสรักษ์โลก และสร้างความยั่งยืนอีกด้วย
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 5 กรกฏาคม 2567