"นิคมพลังงานสะอาด" คืออะไร ใครได้ประโยชน์
"ยุทธศักดิ์" ประธานบอร์ดการนิคมอุตสาหกรรม ประกาศทิศทางใหม่ ทุกแห่งต้องเป็น "นิคมพลังงานสะอาด" ทำงานแบบรวดเร็ว ดุดัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ I-EA-T Next Move : Fast & Furious
วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ.ประกาศทิศทางใหม่เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ภายใต้แนวคิด “I-EA-T Next Move : Fast & Furious” ที่มุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาดและระบบไฟฟ้าที่มั่นคง เพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จึงกำหนดให้นิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือมาบตาพุด สู่การเป็น “นิคมพลังงานสะอาด” ซึ่งหมายถึง การใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดที่หลากหลาย เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวมวล ก๊าซธรรมชาติ ไฮโดรเจน และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูล (SMR) เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างความมั่นคงทางพลังงานในพื้นที่ที่กำหนด
ผลที่เกิดคือ เรื่องของสิ่งแวดล้อม มลพิษที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตจะลดลง ซึ่งส่งผลดีต่อชุมชุนทั้งสิ้น ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการเมื่อใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต เป็นสิ่งที่กติกาโลกได้กำหนดไว้ ดังนั้นสินค้าที่ถูกผลิตขึ้นจากพลังงานสะอาดจะไม่ถูดกีดกันจากมาตรการ CBAM ในขณะเดียวกันนี่ยังจะเป็นตัวดึงดูดการลงทุนเข้า เพราะปัจจุบันนักลงทุนต่างเรียกร้องหาพลังงานสะอาด ที่เป็นระบบสาธารณูปโภคไว้รองรับ
สำหรับ I-EA-T Next Move : Fast & Furious เป็นแผนงานเชิงรุกที่ครอบคลุมการดำเนินงานในหลายด้าน ได้แก่
1)พลังงานสะอาด : กนอ.จะเร่งเปลี่ยนผ่านแหล่งพลังงานในนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือมาบตาพุด สู่การเป็น “นิคมพลังงานสะอาด” โดยมุ่งเน้นการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดที่หลากหลาย โดยจะเริ่มทำทันปี อย่างน้อยควรจะเห็นผลเร็วที่สุด 3-5 ปี
2)ระบบไฟฟ้ามั่นคง : กนอ.จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบไฟฟ้าที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
3)เทคโนโลยี AI ขับเคลื่อนอนาคต : กนอ.จะนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกมิติ ตั้งแต่การบริหารจัดการสาธารณูปโภค การวิเคราะห์ข้อมูล การวางแผน ไปจนถึงการพัฒนา Smart Port ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด
4)ดึงดูดการลงทุน : กนอ.จะปรับเปลี่ยนบทบาทจาก Regulator สู่ Facilitator เพื่ออำนวยความสะดวกและส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ EEC ด้วยการสร้าง Fast Track ช่วยประเทศทำการตลาด และเปิดพื้นที่รองรับการลงทุนใหม่ พร้อมทั้งจัดงาน I-EA-T Expo หรือ RISE Thailand เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
5)ความยั่งยืนเป็นหัวใจ : กนอ.จะมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน โดยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emission เพื่อให้ประเทศไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ
“I-EA-T Next Move : Fast & Furious เป็นก้าวสำคัญที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนในภูมิภาค ด้วยการขับเคลื่อนที่รวดเร็วและดุดัน กนอ.มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย และสร้างความมั่นคงทางพลังงานควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม”
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 23 กรกฏาคม 2567