โหมจัดงาน "InterCare Asia 2024" รับ ธุรกิจสูงวัยโต 1-3 ส.ค.นี้
ภาครัฐ-เอกชน จัดงาน "InterCare Asia 2024" งานนวัตกรรมสุขภาพอาเซียน ระหว่างวันที่ 1-3 ส.ค. นี้ ควบคู่กับงาน Medical & Wellness Travel Fair 2024 พัฒนาธุรกิจด้านสุขภาพไทยให้เติบโต ดึงนวัตกรรมสุขภาพทั่วโลกจัดแสดง ชี้ สร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 7.5% ให้กับประเทศในระยะยาว
วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการบริหาร บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางและโอกาสของธุรกิจสุขภาพในประเทศไทยปี 2567 ว่า ธุรกิจสุขภาพของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจสุขภาพของกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2.99 ล้านบาท เฉลี่ยปีละ 7.5%
โดยปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจสุขภาพผู้สูงอายุเติบโตมากขึ้น เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้างประชากรและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น รวมถึงการเติบโตเทคโนโลยีทางการแพทย์และนวัตกรรมต่างๆ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจสุขภาพให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และด้วยศักยภาพของประเทศไทยในด้านการแพทย์และการบริการสุขภาพที่มีคุณภาพในระดับสากล
ประกอบกับความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ทำให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในฐานะหนึ่งในศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ในภูมิภาคเอเชีย
นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า การจัดงาน InterCare Asia 2024 งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตสำหรับทุกวัย ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 2 จะเป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอสินค้าและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้สูงอายุ และเชื่อมโยงผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในธุรกิจสุขภาพ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านสุขภาพ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ
“เพราะการมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีโรคภัยไข้เจ็บน้อยลง ไม่ป่วย ไม่จน เป็นสิ่งที่ทุกๆ คนต้องการ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้ดีขึ้น ต้องการให้สังคมไทยมีผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคม มากกว่ากลุ่มติดบ้าน หรือติดเตียง ดังนั้น การจัดงาน InterCare Asia 2024ไม่ใช่เป็นการแสดงสินค้าและนวัตกรรมเท่านั้น แต่จะเป็นการให้ความรู้ในเรื่องของการวางแผนการเกษียณโดยไม่พึ่งพาลูกหลาน ช่วยให้ทุกคน ทั้งวัยอายุ50+ ไปจนถึงวัยอายุ70+ ซึ่งแต่ละช่วงวัยต้องวางแผนชีวิตแตกต่างกันออกไป รวมถึงการวางแผนทางการเงิน และการประกันชีวิต” นาย ศักดิ์ชัย กล่าว
ด้าน พญ.ประภา วงศ์แพทย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย กล่าวว่าภาพรวมตลาดท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพของไทยในปี 2567 ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ความสนใจมาใช้บริการด้านการแพทย์และสุขภาพในประเทศไทย เนื่องจากมีคุณภาพและมาตรฐานสูง รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็น ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) พ.ศ.2568 – 2577 ซึ่งมีเป้าหมายให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการบริการสุขภาพใน 4 หมุดหมาย คือ ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) ศูนย์กลางการรักษาพยาบาล (Service Hub) ศูนย์กลางบริการวิชาการและงานวิจัย (Academic Hub) และศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Product Hub) เพื่อให้ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางสุขภาพโลก และเป็นศูนย์กลางสุขภาพ พร้อมเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรของโลก
โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเป็นแม่งานในการขับเคลื่อนประเทศไทยกำหนด 6 เสาหลัก ได้แก่ 1.ThaiWellness & นวดไทย 2. Medical tourism for all (ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ได้) 3. Herbal Products Wellness (เน้นเรื่องผลิตภัณฑ์สมุนไพร แพทย์แผนไทย) 4. Health Exhibition Center(ศูนย์กลางนิทรรศการสุขภาพ)5. Senior Living Destination (ส่งเสริมให้เป็นผู้สูงอายุติดสังคม) และ6. Medical& Wellness relay (การถ่ายทอด)
“ไทยมีผู้ประกอบการด้าน Medical หรือผู้ประกอบการในกลุ่มโรงพยาบาลที่มีความเข้มแข็งมาก ซึ่งไทยมีโรงพยาบาล ประมาณ 420 แห่ง และมีโรงพยาบาล 92 แห่งที่ให้บริการการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวล คือ ความเข้มแข็งของผู้ประกอบการรายย่อย wellness และคลินิก เพราะต่อให้มีการใช้บริการจำนวนมากและคาดว่าจะมีมูลค่ามากแต่ไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ และส่วนหนึ่งจะยังไม่มีความเข้มแข็ง” พญ.ประภา กล่าว
สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงาน InterCare Asia 2024 และ Medical & Wellness Travel Fair 2024 ได้ในระหว่างวันที่ 1 – 3 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00-19.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ www.intercare-asia.com หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ ได้ทาง www.facebook.com/intercareexpo
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 28 กรกฏาคม 2567