10 เมืองสุดฮิตสำหรับการทำงานแบบ "Workcation" ที่สายรีโมตต้องลอง
เปิดชื่อ 10 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับการ Workcation ของคนทำงานแบบไฮบริดและรีโมตที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการพักผ่อน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการทำงานและการพักผ่อนแบบ "Workcation" สำหรับคนทำงานแบบไฮบริดและรีโมต จากการจัดอันดับของ International Workplace Group (IWG) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นและไฮบริด
การจัดอันดับดังกล่าวเกิดขึ้นจากการวิจัยภายในองค์กร และผลสำรวจจากพนักงานออฟฟิศไฮบริดกว่า 1,000 คนทั่วโลก โดยผลสำรวจระบุว่าการทำงานแบบไฮบริดและรีโมตที่ได้รับความนิยมในช่วงการระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นที่ต้องการสูง และกลายเป็นการจัดการที่ถาวรสำหรับหลายบริษัท
รายงานจาก IWG ยังระบุว่าจำนวนคนที่ทำงานจากที่บ้านเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่าระหว่างปี 2019 ถึง 2023 โดยปัจจุบัน 40% ของพนักงานในสหรัฐอเมริกาทำงานจากที่บ้านอย่างน้อยหนึ่งวันต่อสัปดาห์
Mark Dixon ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ IWG กล่าวว่า “ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ที่สามารถใช้ได้ทั่วโลกตราบเท่าที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตคุณภาพสูง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนถึงหันมาผสมผสานการทำงานกับการท่องเที่ยวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มวันหยุดหลังจากทริปหรือการทำงานเป็นเวลาหลายเดือนในฐานะผู้เร่ร่อนทางดิจิทัล”
รายงานของ IWG ได้จัดอันดับ 30 เมืองทั่วโลกโดยให้คะแนนในหมวดหมู่ต่าง ๆ อาทิ สภาพภูมิอากาศ วัฒนธรรม ที่พัก การขนส่ง อาหาร ค่าครองชีพ ความสุข ความเร็วของอินเทอร์เน็ต ความยั่งยืน และความพร้อมในการให้บริการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่น
บูดาเปสต์ครองอันดับหนึ่งในปีนี้ โดยได้คะแนนสูงในหมวดที่พัก (9.5/10) การขนส่ง (9.5/10) ความยั่งยืน (8.5/10) และความเร็วของอินเทอร์เน็ต (8/10)
นอกจากนี้ เมืองหลวงของฮังการียังมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมคลาสสิก และดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 12 ล้านคนต่อปี มีพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรีมากกว่า 200 แห่ง รวมถึงย่านที่มีชีวิตชีวา และพื้นที่สีเขียวมากมาย ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนทำงานแบบเร่ร่อนดิจิทัล
10 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานแบบ "Workcation" :
1. บูดาเปสต์
2. บาร์เซโลนา
3. ริโอเดจาเนโร
4. ปักกิ่ง
5. ลิสบอน
6. นิวยอร์ก
7. สิงคโปร์
8. จาการ์ตา
9. ลอสแอนเจลิส
10. มิลาน
บาร์เซโลนา เมืองที่เคยครองอันดับหนึ่งในปีที่แล้ว ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของคนทำงานไฮบริด โดยมีการเสนอโครงการวีซ่าสำหรับคนทำงานเร่ร่อนดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่เชื่อถือได้ และค่าครองชีพที่ค่อนข้างถูก บาร์เซโลนายังได้รับคะแนนสูงในด้านการขนส่ง สภาพภูมิอากาศ และที่พัก ซึ่งวัดจากราคาค่าขนส่งรายเดือน ชั่วโมงแดดรวมต่อปี และค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือนตามลำดับ
สำหรับเมืองในเอเชียก็มีปักกิ่ง สิงคโปร์ และจาการ์ตาติดอยู่ใน 10 อันดับแรก โดยปักกิ่งอยู่ในอันดับสี่ ขณะที่สิงคโปร์ก้าวขึ้นมาอยู่อันดับเจ็ด โดยได้คะแนนสูงมากในหมวดคุณภาพอินเทอร์เน็ต และความยั่งยืน
สิงคโปร์ ยังถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในเอเชียเป็นปีที่สองติดต่อกัน และกำลังมุ่งไปสู่การครอบคลุมเครือข่าย 5G ทั่วเกาะภายในปี 2025
Mark Dixon กล่าวเสริมว่า “แนวโน้มนี้จะเร่งขึ้นอีก และเราจะเห็นบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ยอมรับนโยบาย WFA (Work from Anywhere) เพื่อปรับปรุงความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานของพนักงาน และเพิ่มความน่าสนใจในฐานะนายจ้าง”
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 22 สิงหาคม 2567