เร่งตั้งรัฐบาลแก้วิกฤติ ประชาชนกำลังล้มละลาย
ในห้วงเวลาเช่นนี้ วิกฤติเศรษฐกิจยังเป็นปัญหาสำคัญ ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ให้เร็ว หากนับตั้งแต่ รัฐบาลเศรษฐา เรายังไม่เห็นมาตรการพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ไม่มีมาตรการช่วยเหลือใดๆ บรรเทาปัญหาปากท้องประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่
หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงและกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก ธุรกิจเองก็ไปไม่รอด ต้องปิดตัว ปิดกิจการกันมากมาย แต่กลับไร้คำตอบจากรัฐว่าจะช่วยเหลืออย่างไร เราตกอยู่ในห้วงสุญญากาศนานเกินไป ประชาชน ธุรกิจ กำลังจะตาย แต่รัฐบาล นักการเมือง กลับกำลังแย่งชิงเก้าอี้กันอย่างเมามัน
ห้วงวิกฤติเศรษฐกิจเช่นนี้ ยิ่งรัฐบาลเร่งหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น อาจทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่ม ประชาชนมีงานทำ หารายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว บรรเทาปัญหาปากท้องได้ในระยะสั้น ยิ่งรัฐบาลคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหมาะสม ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นประชาชนและธุรกิจต่อระบบเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจกลับมาใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น เป็นกลไกสำคัญผลักดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว
การกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้เร็วยังช่วยควบคุมและลดผลกระทบด้านลบจากวิกฤติต่างๆ ทั้งเรื่องว่างงาน ค่าครองชีพ และปัญหาทางสังคมอื่นๆ ที่จะตามมา ทำให้ผ่านพ้นวิกฤติได้เร็วขึ้นเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ประชาชนและภาคธุรกิจ เป็นปัจจัยสำคัญหนุนให้ประเทศก้าวผ่านวิกฤติได้อย่างมั่นคงแต่ถ้ารัฐบาลยัง “ช้า” ปัญหาจะยิ่งผุดออกมามากมาย ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในสังคม อาจลุกลามมากขึ้น
เนื่องจากประชาชนมีรายได้น้อยลง บางคนตกงาน ธุรกิจขนาดเล็กได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤติ แต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ และมีมาตรการรองรับอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ปัญหาความยากจนและการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมทวีความรุนแรงขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมอาจชะลอตัวลงอย่างมาก การฟื้นตัวจะยากลำบากหากไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนให้การใช้จ่ายและการลงทุน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจและครัวเรือน ซึ่งจะกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ระวังภาระหนี้และปัญหาการเงินของภาคธุรกิจ รวมถึงครัวเรือน อาจทวีความรุนแรงขึ้น จากผลกระทบจากวิกฤติที่มีต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ เราจะเห็นวิกฤติการล้มละลายถี่ขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย สุดท้ายความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุนจะลดลงอย่างฮวบฮาบ เพราะความไม่แน่นอนและความไม่มั่นใจในการรับมือกับวิกฤติ ส่งผลเชิงลบต่อการใช้จ่ายและการลงทุนในอนาคต ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศไทยยากขึ้น หรือแทบไร้อนาคต
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 3 กันยายน 2567