MI ชี้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังไม่สดใส แนะเตรียมรับมือ เงินบาทแข็งค่า
MI GROUP คาดการณ์เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังไม่สดใส ซึมยาวไร้ปัจจัยบวก สถานการณ์ค่าแข็งบาทแข็งตัว และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกลาง แนะผู้ประกอบการเตรียมรับแรงกระแทก
นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป หรือเอ็มไอ กรุ๊ปเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปีนี้ จากสถานการณ์ค่าแข็งบาทแข็งตัว และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกลางที่จะฉายภาพกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร
“ในเรื่องของค่าเงิน เราพูดในแง่ของผู้ประกอบการที่รับผลกระทบ เขาจะพยายามที่จะลดต้นทุนให้ได้ เนื่องจากกำไรที่ต้องลดน้อยลง ผู้ประกอบการต้องเตรียมรับมือ ถ้ามองภาพในช่วงระยะ 4- 5 เดือนมานี้ต้องทําใจแล้ว เพราะว่าตอนนี้ หน่วยงานสมาคมพยายามที่จะไล่บี้ทางรัฐบาลหรือแบงค์ชาติให้ควบคุมให้มันลงมาเหลือ 5% ได้หรือไม่ นี่คือการดิ้นตายของผู้ประกอบการ”
ซึ่งจากสถานการณ์เงินบาทที่ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดช่วงเช้าวันนี้ 25 ก.ย.2567 แข็งค่าสุดในรอบ 30 เดือน ที่ระดับ 32.563 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.62-32.64 บาท/ดอลลาร์
โดยพบว่า ดัชนีค่าเงินบาทในเดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 121.51 สูงสุดในรอบ 18 เดือน หรือ 1 ปีครึ่ง นับตั้งเดือนมกราคม 2567 ที่ดัชนีค่าเงินบาทอยู่ที่ 121.91 หมายความว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลของประเทศคู่ค้าและคู่แข่งของไทย สะท้อนว่าไทยกำลังเสียเปรียบในด้านราคาโดยรวมเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าและคู่แข่ง
ปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้สินค้าไทยมีราคาแพงขึ้นในตลาดต่างประเทศ ทำให้ยอดส่งออกลดลงและกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการอย่างมาก ผู้ประกอบการหลายรายต้องปรับตัวโดยการลดต้นทุน หรือลดราคาสินค้าเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด
นอกจากนี้สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดโลก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้น
“ในมุมของประเทศไทย ปัจจัยที่อาจจะเกี่ยวข้องก็คือนักท่องเที่ยว ถึงแม้เรื่องเงินบาทแข็งค่าจะไม่ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปเลยถ้าเทียบกับปัจจัยลบอื่น ๆ ในแง่ของสงครามก็ส่งผลเรื่องนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน เช่นเดียวกันถ้ามองภาพใหญ่เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังไม่สดใส”
นอกจากนี้ ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาพลังงาน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศซบเซาลง ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ผู้ประกอบการหลายรายเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ และยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจไทย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 25 กันยายน 2567