จีน เอไอ สร้างชาติ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สู่มหาอำนาจโลกบนความยั่งยืน
1 ตุลาคม 2024 ครบรอบ 75 ปี "วันชาติจีน" นับแต่ "เหมา เจ๋อ ตง" กดปุ่มเชิญธงชาติสีแดงฉานพร้อมดวงดาว 5 ดวงขึ้นสู่ยอดเสา ประกาศต่อมนุษยชาติว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ถือกำเนิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1949
75 ปีที่ผ่านพ้น นับจากวันเริ่มต้น ผ่านมรสุม ฝ่าอุปสรรค กระทั่งเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขจัดความยากจนแร้นแค้นที่เคยเปรียบเสมือนมรดกตกทอด สู่จีนยุคใหม่ที่ผู้คนกินดีอยู่ดี ปฎิรูปประเทศสู่เวทีสากลด้วยหยาดเหงื่อ จากยุคอนาล็อก สู่โลกดิจิทัล จีนไม่เคย หยุดยั้งในการพัฒนา
ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ท่ามกลางยุค ‘ปัญญาประดิษฐ์’ (Artiflcial Intelligence) หรือ ‘เอไอ’ ที่พลิกโฉมโลกทั้งใบสู่อนาคตของมวลมนุษยชาติ จีนพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำและผลิตภัณฑ์เอไอ มุ่งหน้าสู่ผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ภายในปี 2030 หรือเพียง 6 ปีข้างหน้า โดยยึดมั่นในหลักการพัฒนากำกับดูแลที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและ ‘เอไอเพื่อโลก’ ปักหมุดเป้าหมาย ยกระดับความเป็นอยู่ของมนุษยชาติ ผลักดันเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สุขภาพ การศึกษา เป็นต้น
ไม่เเพียงเท่านั้น ท่ามกลางเทรนด์โลกที่หันมาให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน (Sustainability) จีนยังชูการนำปัญญาประดิษฐ์มาช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้เอไอรวบรวมข้อมูลเซ็นเซอร์ดาวเทียมและช่วยนักวิจัยในการสร้างแบบจำลองสภาพภูมิอากาศ ตรวจสอบและติดตามคุณภาพอากาศ รวมถึงสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดอีกด้วย โดยในงานประชุมปัญญาประดิษฐ์โลก (World AI Conference) 2024 ณ เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้
ภายในงานดังกล่าวมีการเผยแพร่ชุดตัวอย่างและภาพถ่าย ‘ปัญญาประดิษฐ์จากจีน สร้างประโยชน์ต่อโลก’ให้เห็นถึงตัวอย่างผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์จากจีน (AI) และเทคโนโลยีของจีนที่เสริมศักยภาพในการพัฒนาของประเทศและภูมิภาคต่างๆทั่วโลก
จีนจึงเป็นประเทศที่ก้าวสู่การเป็นมหาอำนาจบนความยั่งยืน :
ขณะที่ ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนจะครบรอบ 50 ปี ในปี 2568 หรืออีก 1 ปีข้างหน้า ไทยเปิดตัวโครงการใหญ่ ‘หนีห่าว มันธ์’ (Nihao Month) ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและตลาดจีนจัดโปรโมชันผ่าน 5 แพลตฟอร์มออนไลน์ของจีน ถือเป็นก้าวแรกในการเข้าสู่บรรยากาศการเฉลิมฉลอง ซึ่งรัฐบาลจีนให้ความสำคัญในการร่วมมือจัดงาน หนีห่าว มันธ์ กระตุ้นให้ปักหมุดท่องเที่ยวไทยในช่วงวันชาติจีน
ล่าสุด จีนประกาศแคมเปญ ทุ่มแจก 154,700 ล้านหยวนหรือกว่า 731,000 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้มีรายได้น้อยเนื่องในวันชาติจีน บ่งชี้นโยบาย ‘เชิงรุก’ มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ธนาคารกลางจีนลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น หวังกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนหยุดยาวช่วงเทศกาลวันชาติจีน หรือ ‘โกลเด้นวีค’
สำหรับอีกด้านที่โดดเด่นคือ ซอฟต์ พาวเวอร์ อย่าง Art Toys จากความนิยมเฉพาะกลุ่มสู่กระแสป๊อปคัลเจอร์ โอกาสของศิลปินและผู้ประกอบการไทย ชวนจับตา POP MART ร้าน Art Toys ชื่อดังจากจีนที่มาแรงที่สุด โดยมี ‘Molly’ ศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ จากการออกแบบตุ๊กตา Crybaby ซึ่งจำหน่ายในร้านดังกล่าวเช่นกัน
วันชาติจีนปีนี้ จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติ พร้อมเคาต์ดาวน์สู่ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของจีนไปพร้อมๆ กัน
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 1 ตุลาคม 2567