คิดเห็นแชร์ : ปลดล็อกใบอนุญาตสู่พลังงานสะอาด เพิ่มขีดแข่งขันแบบ "ซีโร่คาร์บอน"
สวัสดีครับท่านผู้อ่านคอลัมน์คิด เห็น แชร์ และผู้อ่านมติชนทุกท่าน
วันนี้ผมอยากจะมาแชร์สิ่งดีๆ ที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานฯได้ดำเนินการอยู่ในเรื่องของการปลดล็อกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือใบอนุญาต ร.ง.4 ซึ่งที่ผ่านมา หากนักลงทุนต้องการประกอบกิจการโรงงาน ต้องผ่านการทำธุรกรรมจากหลายหน่วยงานตั้งแต่ขออนุญาตก่อสร้าง ขอใช้ไฟฟ้า น้ำประปา จดทะเบียนทรัพย์สิน ขอรับสินเชื่อ เป็นต้น ซึ่งต้องดำเนินการหลายขั้นตอนและใช้เวลาพอสมควร แต่สิ่งที่ผมอยากบอกเล่าในวันนี้ เป็นเรื่องของการปลดล็อกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานลำดับที่ 88(1) สำหรับการติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา หรือเรียกกสั้นๆ ว่า Solar Rooftop
การปลดล็อกครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจใช้พลังงานสะอาด มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งต่อยอดพัฒนาภาคการผลิตและบริการ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อวางรากฐานสู่การพัฒนาประเทศ ด้วยการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ (Industry Transformation) และพัฒนาเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ๆ (New Growth Engine) จะปูพื้นฐานให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
โดยเฉพาะการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy or Eco-friendly Economy) ด้วยการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและปรับกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของความต้องการของผู้บริโภคด้วยการใช้เทคโนโลยีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดรับกับนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญต่การปฏิรูปอุตสาหกรรม ที่เน้นการพัฒนาอย่างสมดุลทั้ง 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเร่งปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง สร้าง Ease of Doing business ลดความซ้ำซ้อน อุดช่องโหว่ ปิดช่องว่าง สร้างแต้มต่อ เอื้อผู้ประกอบการที่ดีให้สามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
แล้วโรงงานลำดับที่ 88(1) คือโรงงานทำอะไร
ตามนิยาม โรงงานลำดับที่ 88(1) คือ โรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ยกเว้นที่ติดตั้งบนหลังคา ดาดฟ้า หรือส่วนหนึ่งส่วนใดบนอาคารซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่หรือใช้สอยได้โดยมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งสูงสุดรวมกันของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ไม่เกิน 1,000 กิโลวัตต์
กล่าวให้เข้าใจง่ายๆ คือ โรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farm) และแบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Solar Floating) หรือแบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเกิน 1,000 กิโลวัตต์ หรือ 1 เมกะวัตต์ ต้องขอรับใบอนุญาต ร.ง.4 ก่อนเริ่มประกอบกิจการ
หากท่านต้องการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า แต่หากมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเกิน 1,000 กิโลวัตต์ หรือ 1 เมกะวัตต์ จะเข้าข่ายการเป็นโรงงานตามกฎหมายโรงงาน โดยก่อนติดตั้ง ต้องยื่นเรื่องขอประกาศรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านโดยรอบก่อน จากนั้นต้องยื่นขอรับใบอนุญาต ร.ง.4 และต้องได้รับใบอนุญาตก่อนเท่านั้น จึงสามารถติดตั้งและใช้งาน Solar Rooftop เพื่อผลิตไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง
กระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นว่า การติดตั้ง Solar Rooftop สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับปัจจัยด้านทำเลที่ตั้ง เนื่องจากเป็นการติดตั้งบนอาคารที่มีอยู่แล้ว ทำให้สามารถติดตั้งได้รวดเร็ว เป็นการเปลี่ยนพื้นที่บนหลังคาที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ มาเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งสามารถลดความร้อนภายในอาคาร ทำให้ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงได้อย่างมีนัยสำคัญ สามารถประหยัดไฟถึง 20-30% หรือหากใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันอย่างเดียว จะประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 40% อีกทั้งการคืนทุนอยู่ที่ประมาณ 4-6 ปี ซึ่งเหมาะสมกับกิจการขนาดเล็ก ขนาดกลาง ทำให้กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานทดแทนได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ยังช่วยผู้ประกอบการลดผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าในรูปแบบต่างๆ เช่น EU’s Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) จะเป็นการเร่งรัดการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG เน้นการรักษาคุณค่าของทรัพยากรด้วยการลดการใช้หมุนเวียนนำกลับมาใช้ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดปัญหามลพิษ และสร้างเศรษฐกิจแนวใหม่ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด
กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานฯ จึงปรับแก้กฎหมาย เสนอร่างแก้ไขกฎกระทรวง กำหนดให้การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ปัจจุบันอยู่ระหว่างนำส่งร่างแก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าวต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หากกฎกระทรวงฉบับนี้ผ่าน ครม. และมีผลบังคับใช้แล้ว ต่อไปหากต้องการติดตั้ง Solar Rooftop สามารถดำเนินการได้เลย โดยไม่ต้องขอใบอนุญาต ร.ง.4 ถือว่าสะดวกขึ้น
นอกจากความสะดวกในมิติที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาต ร.ง.4 แล้ว ผมเชื่อว่าหลายท่านคงมีข้อห่วงใย กรณีปลดล็อกไปแล้ว จะมีกฎหมายหรือมาตรฐานใดควบคุมด้านความปลอดภัยในการติดตั้ง และจัดการแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่เสื่อมสภาพไปทำการบำบัดกำจัดไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่?
ประเด็นนี้ไม่ต้องเป็นห่วง การติดตั้ง Solar Rooftop และการจัดการแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่เสื่อมสภาพนั้น มีมาตรการด้านความปลอดภัยมีกฎหมายที่ควบคุมดูแลอยู่แล้ว เช่น มอก.61215 เล่ม 1(1)-2561 สำหรับแผงเซลล์แสงอาทิตย์ภาคพื้นดินชนิดผลึกซิลิกอน มอก.2210-2555 สำหรับชนิดฟิล์มบาง มอก.2580 เล่ม 1-2562 และเล่ม 2-2562 สำหรับมาตรฐานความปลอดภัยของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ และ มอก.2572-2555 สำหรับการติดตั้งทางไฟฟ้าและระบบจ่ายกำลังไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วไปที่ผู้ผลิตในประเทศสามารถขอการรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรมได้
นอกจากนี้ ยังมีการกำกับดูแลตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร การกำกับดูแลตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง มาตรการด้านออกแบบติดตั้งและจัดการขยะและกากของเสียสำหรับผู้ประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากเทคโนโลยีแผงโฟโต้โวลเทอิกที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า พ.ศ.2557 และระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดทำรายงานประมวลหลักการปฏิบัติและรายงานผลการปฏิบัติตามประมวลหลักการปฏิบัติสำหรับการประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า พ.ศ.2565 เป็นต้น
การปลดล็อก Solar Rooftop เป็นการอำนวยความสะดวก ลดความซ้ำซ้อนทางกฎหมาย ผลักดันให้ทุกภาคส่วนใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เพื่อยกระดับระบบพลังงานไฟฟ้าไทยให้มีความเสถียร ยั่งยืน เป็นพลังงานสะอาดและราคาถูก จะเป็นจุดแข็งสำคัญ ตอบสนองกติกาสากลและช่วยดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ให้เพิ่มมากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศแบบ “ซีโร่คาร์บอน”
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 7 ตุลาคม 2567