เศรษฐกิจรัสเซียทรุดหนัก อาจต้องจบศึกยูเครน
แอนเดอร์ส อัสลุนด์ นักเศรษฐศาสตร์และนักเขียนชาวสวีเดน ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ในบทความแสดงความคิดเห็นของตนเองเมื่อไม่นานมานี้ว่า เศรษฐกิจของรัสเซียกำลังย่ำแย่อย่างหนัก จากพิษของสงครามยูเครนและการแซงก์ชั่น
แย่ถึงขนาดไม่อาจรองรับการทำสงครามเพื่อรุกรานยูเครนได้อีกต่อไปแล้ว ถึงขนาดอาจจำเป็นต้องยุติลงภายในต้นปี 2025 ที่จะถึงนี้เท่านั้น
ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของรัสเซียเกิดขึ้นในแทบทุกด้าน ตั้งแต่ในด้านการเงิน ภาคเทคโนโลยี ภาคการผลิต แม้แต่ปัจจัยในเชิงประชากร ซึ่งส่งผลต่อแรงงานในการผลิตก็เป็นไปในทางลบทั้งหมด
อัสลุนด์ประเมินว่า การแซงก์ชั่นจากโลกตะวันตก ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของรัสเซีย หดตัวลงปีละ 2-3% ทุกปี ผลก็คือ สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศขยับเข้าใกล้สภาวะ “หยุดชะงัก” โดยสิ้นเชิงมากขึ้นทุกที
ยิ่งนานวันมากขึ้น สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจในรัสเซียจะยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ แม้ว่า “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย จะยังคงท่าทีแข็งกร้าวในการรุกรานยูเครนอยู่ในเวลานี้ก็ตาม
อัสลุนด์ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า หน่วยข่าวกรองของยูเครนได้เอกสารจำนวนหนึ่งจากภายในรัสเซีย ที่ระบุชัดเจนว่า “แรงกดดันจากภาคการเงินและสภาวะเศรษฐกิจ บีบจนทางการรัสเซียต้องการปิดฉากสงครามในยูเครนให้ได้ ไม่ด้วยวิธีใดก็วิธีหนึ่งภายในปลายปี 2025”
อัสลุนด์ชี้ว่า ไม่ว่าเอกสารดังกล่าวจะเป็นเอกสารจริงหรือปลอม แต่สถานการณ์ที่ระบุถึง น่าสนใจและสอดคล้องกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจรัสเซียในเวลานี้
เขาให้เหตุผลว่า การแซงก์ชั่นจากโลกตะวันตก ส่งผลให้เกิดสิ่งที่นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์เรียกว่า “ภาวะเงินเฟ้อแฝง” (Hidden Inflation) ขึ้นในรัสเซีย ซึ่งคือสภาพที่รัสเซีย ไม่สามารถระดมทุนจากตลาดการเงินโลกได้ สุดท้ายก็ถูกบีบบังคับให้ต้องหันมาพึ่งพาเพียงแค่ ทุนสำรอง ของตนเองเท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนั้น ภาวะขาดดุลงบประมาณก็ถูกจำกัดตามไปด้วย โดยต้องไม่เกิน 2% ของจีดีพี หรือเทียบเท่ากับประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์
ปัญหาก็คือ ทุนสำรองของรัสเซียลดน้อยลงเรื่อย ๆ และเป็นที่รู้กันว่า เมื่อถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทุนสำรองที่ว่าก็ลดลงเหลือเพียง 55,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้สามารถคำนวณได้ว่า รัสเซียมีเงินคงคลังสำหรับนำมาใช้ได้เพียงแค่จนถึงต้นปี 2025 เท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยีของรัสเซียก็เผชิญกับสภาวะถอยหลังเข้าคลองในทุก ๆ ด้าน ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะ “สมองล่อง” เมื่อนักวิชาการที่ดีที่สุด ปราดเปรื่องที่สุดของประเทศ ต้องหลบหนีออกนอกประเทศ ทั้งเพื่อหนีการเกณฑ์หรือไม่ก็หนีการกดขี่ และการเล่นพรรคเล่นพวกของปูติน
นอกจากนั้น รัสเซียยังไม่สามารถทำรายได้จากการขายอาวุธได้อีกต่อไป เนื่องจากความต้องการอาวุธของกองทัพตนเอง ทำให้ไม่หลงเหลืออาวุธที่จะส่งออกอีกต่อไป
อัตราว่างงานในรัสเซียในเวลานี้อยู่ในระดับต่ำมาก เพราะแทบไม่มีแรงงานหลงเหลือ ส่วนหนึ่งถูกเกณฑ์ อีกส่วนหนึ่งหลบหนีออกนอกประเทศ ในขณะที่การบาดเจ็บล้มตายสูงจากสนามรบในยูเครน เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ความพยายามเกณฑ์ทหารเพิ่มทำได้จำกัดและยากมากขึ้นทุกที
อัสลุนด์ประเมินว่า รัสเซียจำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณเพื่อทำสงครามต่อในปีนี้ราว 190,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 10% ของจีดีพี แต่ในเวลาเดียวกันกลับไม่มีงบประมาณรายจ่ายใด ๆ ให้หั่นเพื่อนำมาสมทบได้อีกแล้ว นอกจากงบประมาณในการทำสงคราม
การประเมินของอัสลุนด์สอดคล้องกับรายงานของ สถาบันเพื่อศึกษาเศรษฐกิจใหม่ ของธนาคารแห่งฟินแลนด์ ซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของรัสเซียหดลงอย่างมาก หลงเหลือเพียง 1% ในปี 2025 และปี 2026 จากที่เคยขยายตัวอยู่ที่ 3.5% ในปีนี้
ถ้าจะรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้คงเดิมอยู่ที่ 3.5% จำเป็นต้องเพิ่มผลิตภาพครั้งใหญ่ ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากการลงทุนของรัสเซียทั้งหมดทุ่มให้กับกองทัพและการทำสงครามเท่านั้น แรงงานก็ขาดแคลน พร้อมกันนั้นก็ไม่สามารถหาชิ้นส่วนในการผลิต หรืออุปกรณ์ในการผลิตจากประเทศตะวันตกได้ ยิ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
จนอาจไม่เอื้อให้ทำสงครามตามความอยากของผู้นำได้อีกต่อไป
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 9 ตุลาคม 2567