สมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม ร่วมพิธีเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานฯ ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 คุณดุสิต เมนะพันธ์ุ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปทอดถวาย ณ วัดฟุก มินห์ เถรวาท จังหวัดท้ายบิ่ญ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
โดยมีบุคคลสำคัญฝ่ายเวียดนาม อาทิ นายฝ่าม วัน เงียม รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดท้ายบิ่ญ ท่านอุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย, คุณปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก, คุณธนวัต ศิริกุล รองอธิบดีกรมสารนิเทศ, ท่านวีรกา มุทิตาภรณ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์, หัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทย, ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย, สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์,
คุณสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการ, คุณชินโชติ โมอ่อน อนุกรรมการเลขานุการ สมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนามและคณะฯ, ผู้แทนสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ไทย ตลอดจนภาคเอกชน และพุทธศาสนิกชนชาวไทยและเวียดนามกว่า 500 คน เข้าร่วมพิธี
การเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายครั้งนี้เป็นครั้งที่ 17 ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ ผู้เข้าร่วมพิธีต่างปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และเป็นโอกาสกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน อันแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทั้งสองประเทศที่มีวัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีศรัทธาร่วมกันในพระบวรพุทธศาสนา โดยในปีนี้ สามารถรวบรวมเงินบริจาคซึ่งประกอบด้วยเงินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เงินร่วมทำบุญจากกระทรวงการต่างประเทศและผู้มีจิตศรัทธาชาวไทยและชาวเวียดนาม รวมทั้งสิ้น 543,109 บาท และ 51,108,000 ดอง (หรือประมาณ 68,000 บาท)
อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินโครงการเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดพุทธศาสนาในต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2538 และในปี 2567 ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลเป็นโครงการร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีการเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดพุทธศาสนาใน 9 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สปป.ลาว เมียนมา อินเดีย กัมพูชา เวียดนาม ศรีลังกา มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานด้านการทูตวัฒนธรรม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับประชาชนสู่ประชาชน (ข้อมูล Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand๗
ที่มา สมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567