บริษัทเวียดนามและจีนลงนามในข้อตกลงเพื่อสนับสนุนการค้า
บริษัทเวียดนามและจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเจ็ดฉบับที่ครอบคลุมเศรษฐกิจการค้า โลจิสติกส์ พลังงาน การเกษตร และสื่อระหว่างการสนทนาล่าสุดในเมืองฉงชิ่งของจีน
ปักกิ่ง (VNA) – บริษัทเวียดนามและจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเจ็ดฉบับที่ครอบคลุมเศรษฐกิจการค้า โลจิสติกส์ พลังงาน การเกษตร และสื่อระหว่างการเจรจาล่าสุดในเมืองฉงชิ่งของจีน
งานนี้เข้าร่วมโดย Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ซึ่งตรงกับการเดินทางเพื่อเดินทางไปประชุมสุดยอดภูมิภาคลุ่มแม่น้ําโขง (GMS) ครั้งที่แปด
เวียดนามได้ตอกย้ําตําแหน่งในฐานะหุ้นส่วนการค้าที่ใหญ่ที่สุดของฉงชิ่งในอาเซียน โดยความสัมพันธ์เติบโตอย่างทวีคูณตั้งแต่ปี 2015 ในปีนั้น การจัดตั้งสํานักงานส่งเสริมการค้าเวียดนามอย่างเป็นทางการแห่งแรกในฉงชิ่งโดยหน่วยงานส่งเสริมการค้าเวียดนามภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่บุกเบิกซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง
ในปี 2019 การค้าระหว่างฉงชิ่งและเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 32.84 พันล้านหยวน (4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้น 158.9% ต่อปีอย่างน่าตกใจ ทุกวันนี้ การไหลเข้าอย่างต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์เวียดนามตั้งแต่กาแฟ ผลไม้ ไปจนถึงอาหารทะเล ประดับประดาตลาดของฉงชิ่ง ในทางกลับกัน ชิ้นส่วนยานยนต์ รถจักรยานยนต์ และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์จากฉงชิ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้นในเวียดนาม สร้างการแลกเปลี่ยนแบบไดนามิกที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ
จากข้อมูลของศุลกากรฉงชิ่ง การค้าระหว่างเมืองและอาเซียนมีมูลค่าประมาณ 11.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน ในขณะที่เวียดนามเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รอยเท้าการลงทุนของฉงชิ่งในเวียดนามก็กําลังขยายตัวเช่นกัน โดยมีบริษัทมากกว่า 30 แห่งที่ดําเนินการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักรกลการเกษตร และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ ประเทศนี้ยังกลายเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกที่สําคัญสําหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผลิตในฉงชิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น เวียดนามยังคงเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สําหรับปริมาณสินค้าสูงสุดที่ขนส่งผ่านทางเดินทางบก-ทะเลใหม่ที่เชื่อมโยงฉงชิ่ง
ณ เดือนกันยายน รถไฟขนส่งทางรถไฟ-ทะเลจากฉงชิ่งไปยังเวียดนามได้ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 53,000 ตู้ มูลค่า 11.4 พันล้านหยวน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน การขนส่งสินค้าต่อเนื่องถึง 10,000 TEU มูลค่า 2.78 พันล้านหยวน คิดเป็นปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น 54% และ 160% ตามลําดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ที่มา vietnamplus.vn
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567