นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง พบปะกับผู้นำประเทศและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ
ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจี 20 ณ เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล เช้าวันที่ 18 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะกับผู้นำประเทศและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ
ในการพบปะกับเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า เวียดนามถือการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพกับจีนเป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการต่างประเทศที่อิสระ พึ่งตนเองและมีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่ายของเวียดนาม มีความประสงค์ให้ทั้งสองฝ่ายประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อปฏิบัติความเข้าใจร่วม แถลงการณ์ร่วมและเอกสารต่างๆที่ได้ลงนามในกรอบการเยือนของผู้นำทั้งสองประเทศในเวลาที่ผ่านมา
ส่วนเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง แสดงความประสงค์ว่า ทั้งสองประเทศจะมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันความร่วมมืออย่างจริงจัง โดยเฉพาะการก่อสร้างเส้นทางรถไฟ 3 สายที่เชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนและประสานงานกันในฟอรั่มพหุภาคี
ส่วนในการพบปะกับประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง หวังว่า ในเวลาที่จะถึง ไม่ว่าจะในฐานะใดๆแต่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะสนับสนุนและมีส่วนร่วมต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ยืนยันการสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศต่อไป
ในการให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีอินเดีย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอ 3 แนวทางเพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านให้เข้าสู่ส่วนลึกและมีประสิทธิภาพ โดยเวียดนามสนับสนุนโครงการลงทุนใหญ่ของอินเดียในด้านโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม การขนส่ง โลจิสติกส์ เทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น ส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการทั้งสองประเทศและการสนทนาระหว่างรัฐบาลกับสถานประกอบการเพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือและผลักดันการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน
ส่วนในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ หารือเกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน เสนอแนวทางต่างๆเพื่อมีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก
ในการให้การต้อนรับนาย อันโตนิโอ-กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า เวียดนามสนับสนุนบทบาทการเป็นศูนย์กลางของสหประชาชาติในด้านธรรมาภิบาลโลก ส่วนเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ยืนยันว่า ในโลกที่มีความผันผวนต่างๆ เวียดนามยังคงบรรลุผลงานในเชิงบวกในการพัฒนาประเทศ เป็นตัวอย่างของสันติภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นจุดเด่นของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ในการพบปะกับนาง เออซูลา ฟอนเดอร์เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปหรืออีซี นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้ผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทน แก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย รวมทั้งการที่อีซียกเลิกใบเหลืองต่อการส่งออกสัตว์น้ำเวียดนามโดยเร็ว ส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกที่เหลือของอียูให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างเวียดนามกับอียู ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน เทคโนโลยี การฝึกอบรมแหล่งบุคลากรให้แก่เวียดนามในการปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการการเป็นหุ้นส่วนการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม หรือ JETP อย่างมีประสิทธิภาพ
ในวันเดียวกันนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ประธานาธิบดีอินโดนีเซียและประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ที่มา vovworld.vn
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567