เวียดนามมีความประสงค์ว่า นักลงทุนสหรัฐจะเข้าร่วมโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
เช้าวันที่ 27 พฤศจิกายน ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดธุรกิจเวียดนาม - สหรัฐภายใต้หัวข้อ “นโยบายและแนวทางการเข้าถึงเพื่อค้ำประกันความสัมพันธ์ทางการค้าที่นำไปสู่ผลประโยชน์ร่วม” โดยมีนาย Marc Knapper เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนาม และชุมชนสถานประกอบการของทั้งสองประเทศเข้าร่วมในรูปแบบโดยตรงและนาย แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเข้าร่วมผ่านระบบออนไลน์
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า ความสัมพันธ์เวียดนาม - สหรัฐกำลังพัฒนาอย่างดีงาม รวมทั้งการมีส่วนร่วมของสถานประกอบการของทั้งสองประเทศ เวียดนามกำลังปฏิบัติภารกิจสำคัญ 6 ประเด็นและ 3 ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อให้ประเทศเวียดนามพัฒนาในศักราชแห่งการผงาด ซึ่งเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เวียดนามยังคงส่งเสริมการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้สอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัติสากล พยายามเตรียมเงื่อนไขและอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างประเทศ รวมทั้ง สถานประกอบการของสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังเสนอให้สหรัฐแก้ไขอุปสรรคและข้อจำกัดต่อเวียดนาม และรับรองกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามโดยเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการของทั้งสองประเทศในการร่วมมือและพัฒนา
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ย้ำว่า สถานประกอบการของทั้งสองประเทศจะเป็นแหล่งพลังที่เข้มแข็งในการใช้ศักยภาพความร่วมมือเวียดนาม-สหรัฐที่ยังมีอีกมาก เสนอให้สถานประกอบการสหรัฐให้ความสนใจและพัฒนาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีการขยายผลที่เข้มแข็งมากขึ้น เพื่อสร้างก้าวกระโดดให้แก่ความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างสองประเทศ
“เรามีความประสงค์ว่า ฝ่ายสหรัฐจะช่วยเหลือเวียดนามในด้านเงินทุน เทคโนโลยี การบริหาร และการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อดำเนินโครงการขนาดใหญ่ และหวังว่า นักลงทุนจะเข้าร่วมโครงการขนาดใหญ่ เช่น การพัฒนาศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศในนครโฮจิมินห์และนครดานัง
เส้นทางรถไฟความเร็วสูงเหนือจรดใต้ การก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ การก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมกับอาเซียนและภูมิภาค การก่อสร้างระบบถนนไฮเวย์เหนือจรดใต้ การก่อสร้างสนามบิน ท่าเรือขนาดใหญ่และโครงการพลังงานสะอาด เวียดนามกำลังก่อสร้างศูนย์ฐานข้อมูลระดับชาติที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ โดยเฉพาะ ในเวลาที่จะถึง เราจะใช้ประโยชน์จากพื้นที่สำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ อวกาศ พื้นที่ทางทะเลและพื้นที่ใต้ดิน”
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แอนโทนี บลิงเกน ได้ประเมินว่า ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศและความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างสถานประกอบการต่างๆกำลังมีขึ้นอย่างคึกคักและเข้มแข็งอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งนำผลประโยชน์ที่แท้จริงมาสู่ประชาชนทั้งสองประเทศ เวียดนามกำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นและกลายเป็นหุ้นส่วนสำคัญของรัฐบาลสหรัฐ
ที่มา vovworld.vn
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567