"ธนาคารโลก" ระดมทุน 100,000 ล้านดอลลาร์ ช่วยเหลือประเทศยากจนที่สุดในโลก
"ธนาคารโลก" ระดมทุนช่วยเหลือประเทศยากจนที่สุดในโลก ทะลุเป้าเดิม 100,000 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความท้าทายเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า "ธนาคารโลก" ได้รับคำมั่นจากประเทศผู้บริจาคในการสนับสนุนเงินจำนวน 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นยอดเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อสนับสนุน สมาพันธ์การพัฒนาระหว่างประเทศ (International Development Association - IDA) ในการช่วยเหลือกลุ่มประเทศยากจนที่สุดของโลก
คำมั่นดังกล่าวเกิดขึ้นในการประชุมที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยเงินทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายสำคัญ เช่น วิกฤตหนี้ ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อัตราเงินเฟ้อ และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของโลก
การระดมทุนครั้งนี้ถือว่าทะลุสถิติเดิมที่ 93,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 โดยได้รับคำมั่นสัญญาเงินสนับสนุนโดยตรง 24,000 ล้านดอลลาร์จากประเทศผู้บริจาค เช่น สหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ เกาหลีใต้ และสเปน ซึ่งเพิ่มเงินช่วยเหลือจากรอบที่แล้ว แม้ตัวเลขที่ได้จะต่ำกว่าเป้าหมาย 120,000 ล้านดอลลาร์ที่กลุ่มประเทศแอฟริกาเรียกร้อง
เงินช่วยเหลือเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม :
อาเจย์ บังกา ประธานธนาคารโลก ระบุว่า กองทุน IDA จะสามารถนำเงินที่ระดมได้ไปช่วยเหลือประเทศยากจนในการสร้างงาน พัฒนาสาธารณูปโภค ปรับปรุงระบบการศึกษา และบริการสุขภาพ รวมถึงเร่งสนับสนุนการปรับตัวต่อปัญหาภาวะโลกร้อนและพลังงานสะอาด ซึ่งเงินช่วยเหลือเหล่านี้ไม่ใช่เพียงเงินทุน แต่คือเครื่องมือสำคัญที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน
ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา กองทุน IDA ได้ปล่อยเงินช่วยเหลือรวมกว่า 270,000 ล้านดอลลาร์ โดยสองในสามของเงินทั้งหมดถูกนำไปใช้ในทวีปแอฟริกา ซึ่งส่งผลสำคัญในการเพิ่มการเข้าถึงไฟฟ้า น้ำสะอาด และการรักษาพยาบาลสำหรับผู้คนหลายล้านชีวิต
ประเทศผู้บริจาคเพิ่มคำมั่น แม้เศรษฐกิจโลกท้าทาย :
แม้การระดมทุนครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ แต่ธนาคารโลกยังคงต้องเผชิญความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน เช่น การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งลดมูลค่าการช่วยเหลือจากประเทศที่ใช้สกุลเงินอื่น เช่น สเปนและนอร์เวย์ นอกจากนี้ การสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาโดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่ยังคงดำรงตำแหน่งจนถึงต้นปีหน้าได้ให้คำมั่นเพิ่มจาก 3.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 เป็น 4 พันล้านดอลลาร์ในครั้งนี้ ยังต้องรอการอนุมัติจากสภาคองเกรส
อย่างไรก็ตาม ประธานของธนาคารโลกได้เน้นย้ำในจดหมายเปิดผนึกถึงประเทศผู้รับและผู้ถือหุ้นว่า การบริหารจัดการเชิงนวัตกรรมของธนาคารโลกในช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มศักยภาพการปล่อยเงินกู้ของธนาคารสูงขึ้นถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ทำให้เงินช่วยเหลือจากประเทศผู้บริจาคถูกแปลงเป็นการลงทุนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
เงินช่วยเหลือเหล่านี้ไม่ได้ถูกใช้เพียงเพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ยังเป็นกลไกในการสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในระยะยาว ทั้งด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยให้ประเทศยากจนสามารถปรับตัวและยืนหยัดในโลกที่เผชิญวิกฤติเศรษฐกิจและภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที 6 ธันวาคม 2567