ข้อคิดการทำงานและการใช้ชีวิตจาก 20 มหาเศรษฐีระดับโลก
ในระดับโลกมีมหาเศรษฐี นักธุรกิจ นักลงทุน จำนวนมากที่สร้างตัวเองขึ้นมาจากการเป็นคนธรรมดา และได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจ เป็นภาพฝันของใครหลายคน
เส้นทางสู่ความสำเร็จหรือการรักษาความสำเร็จของบุคคลเหล่านั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกคนผ่านการทำงานหนัก และต้องเคยเผชิญกับปัญหาหรือความท้าทายต่าง ๆ มาไม่มากก็น้อย ซึ่งในการรับมือกับความท้าทายและปัญหาที่เข้ามา ต้องอาศัยทักษะในการคิดวิเคราะห์ การวางแผน และการตัดสินใจ เพื่อที่จะนำพาตัวเองและองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้
‘ประชาชาติธุรกิจ’ รวบรวมข้อคิดจากนักธุรกิจและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกจำนวน 20 คน มานำเสนอให้ผู้อ่านได้เห็นถึงแนวคิดของบุคคลเหล่านั้นว่ามีแนวคิดเกี่ยวกับการทำงาน การดำเนินธุรกิจ การลงทุน และการใช้ชีวิตอย่างไรที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้
(1)ไมเคิล เดลล์ (Michael Dell) :
ผู้ก่อตั้ง เดลล์ (Dell) บริษัทคอมพิวเตอร์และพีซีรายใหญ่ของโลก

“มันง่ายที่จะตัดสินใจว่าคุณกำลังจะทำอะไร แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่ยากก็คือการตัดสินใจว่าคุณจะไม่ทำอะไร”
(2)เฮนรี ฟอร์ด (Henry Ford) :
ผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ ฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor)
“ถ้าหากจะมีเคล็ดลับความสำเร็จสักอย่างหนึ่ง นั่นคงจะเป็นความสามารถในการเข้าใจมุมมองของคนอื่น และมองสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองของคนอื่นไปพร้อม ๆ กับการมองจากมุมมองของตัวเองด้วย”
(3)แจ็ก หม่า (Jack Ma) :
นักธุรกิจจีน ผู้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา (Alibaba) เว็บไซต์ตลาดออนไลน์ของจีน
“หากคุณอยากก้าวหน้า คุณต้องการหาโอกาสดี ๆ ให้กับตัวคุณเอง และในวันนี้ ถ้าหากคุณต้องการที่จะทำให้บริษัทยิ่งใหญ่ คุณต้องลองคิดดูว่าคุณสามารถแก้ไขปัญหาอะไรให้สังคมได้บ้าง”
(4)เรย์ ดาลิโอ (Ray Dalio) :
นักลงทุนชื่อดัง ผู้ก่อตั้ง บริดจ์วอร์เตอร์ แอสโซซิเอตส์ (Bridgewater Associates) บริษัทเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

“จงจำไว้ว่าจุดประสงค์เดียวของการมีเงินคือ เพื่อทำให้คุณได้สิ่งที่คุณต้องการ ดังนั้น คุณต้องคิดอย่างหนักว่าคุณให้คุณค่ากับสิ่งใดมากกว่าเงิน คุณจะขายความสัมพันธ์ที่ดีได้ในราคาเท่าไร ในโลกนี้ไม่มีเงินมากเพียงพอที่จะทำให้คุณยอมทิ้งความสัมพันธ์อันมีค่าได้”
(5)บิลล์ เกตส์ (Bill Gates):
หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก

“เรามักจะประเมินความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก 2 ปีสูงเกินไป และมักจะประเมินความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้าต่ำเกินไป เราต้องอย่าปล่อยให้ตัวเองนิ่งนอนใจเกินไป”
(6)วอลต์ ดิสนีย์ (Walt Disney) :
ผู้ผลิตภาพยนตร์ ผู้ก่อตั้งอาณาจักรบันเทิง เดอะ วอลต์ ดิสนีย์ คอมปะนี (The Walt Disney Company)
“ความทุกข์ยากที่ผมเคยมีมาทั้งหมดในชีวิต ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ผมเคยได้พบเจอ ล้วนแต่ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น คุณอาจไม่ตระหนักถึงความสำคัญของมันในขณะที่มันเกิดขึ้น แต่ความเจ็บปวดและความผิดหวังอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลกสำหรับคุณก็ได้”
(7)มาร์ก คิวบาน (Mark Cuban) :
นักธุรกิจและนักลงทุนมหาเศรษฐีที่เคยร่วมรายการ ชาร์ก แทงก์ (Shark Tank) รายการเรียลิตี้โชว์เชิงธุรกิจในสหรัฐ
“การปฏิบัติตัวอย่างดี ให้เกียรติ แสดงความเข้าใจต่อลูกค้าประหนึ่งว่าคุณเป็นลูกค้าเอง และการที่คุณรู้ว่าคุณจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาอย่างไรได้บ้างก่อนที่เขาจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ เป็นสิ่งที่ง่ายกว่าการพยายามที่จะแก้ไขความสัมพันธ์กับลูกค้าที่แตกหักไปแล้วเสียอีก”
(8)เจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos) :
เจ้าของธุรกิจแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชอะเมซอน (Amazon)

“คำถามทั่วไปที่มักจะถูกถามในการทำธุรกิจ คือ ‘ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น’ ซึ่งนั่นเป็นคำถามที่ดีมาก แต่คำถามที่ดีไม่แพ้กันคือคำถามที่ถามว่า ‘ทำไมมันถึงไม่เป็นเช่นนั้น’”
(9)อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) และเทสลา (Tesla)

“ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราจะมีวงจรความคิดเห็น (FEEDBACK LOOP) ซึ่งคุณจะต้องคิดอย่างสม่ำเสมอว่าคุณได้ทำอะไรลงไปบ้าง และคุณจะพัฒนาอย่างไรให้มันดียิ่งขึ้นไปอีก”
(10)มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) :
ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ เมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) หรือ เฟซบุ๊ก (Facebook)

“ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดคือ การที่คุณไม่เคยเสี่ยงกับอะไรเลย ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งเดียวที่รับประกันได้ว่าคุณจะล้มเหลว นั่นก็คือการที่คุณไม่เสี่ยงอะไรเลย”
(11)โฮเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) :
อดีตซีอีโอ สตาร์บัคส์ (Starbucks) แบรนด์ร้านกาแฟที่มีสาขาทั่วมุมโลก

“บริษัทไม่ควรมีมุมมองเดียวแค่ในด้านความสามารถในการทำกำไร แต่บริษัทควรจะมีความสมดุลระหว่างการทำธุรกิจและการมีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งบริษัทที่มีแนวคิดเช่นนี้อย่างแท้จริงก็จะกลายเป็นบริษัทที่ทำเงินได้มากกว่า”
(12)เควิน โอแลร์รี่ (Kevin O’Leary) :
นักธุรกิจและนักลงทุนที่เคยร่วมรายการ ชาร์ก แทงก์ (Shark Tank) รายการเรียลิตี้โชว์เชิงธุรกิจในสหรัฐ
“เงินเปรียบเสมือนกองกำลังของผม เงินแต่ละดอลลาร์ก็เปรียบเสมือนทหาร 1 คน ผมไม่เคยส่งเงินของผมลงไปสู้โดยไม่มีการเตรียมตัวและไม่มีการป้องกัน ผมจะส่งเงินไปคว้าชัยชนะและจับเชลย (เงิน) กลับมาให้ผม”
(13)ดรูว์ ฮิวสตัน (Drew Houston) :
ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทดรอปบ็อกซ์ (Dropbox) บริษัทผู้ให้บริการฝากไฟล์และแชร์ไฟล์ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
“คนเรามีที่ว่างสำหรับการพัฒนาตนเองเสมอ คุณรู้ไหมว่า มันเป็นสิ่งที่ดีนะถ้าคุณจะมองย้อนกลับไป วิเคราะห์ใคร่ครวญ และคิดว่าคุณจะพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นได้อย่างไร”
(14)ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) :
อดีตประธานกรรมการบริหารของเพย์พาล (Paypal) แพลตฟอร์มการชำระเงินที่มีการใช้งานทั่วโลก
“ผู้ประกอบการที่เก่งที่สุดย่อมจะรู้ว่า บริษัทที่ยอดเยี่ยมทุกบริษัทนั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วยเคล็ดลับบางอย่างที่ซ่อนเร้นจากภายนอก บริษัทที่ยอดเยี่ยมก็เปรียบเสมือนแผนการหนึ่งที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ [มันคงดีกว่า] ถ้าคุณแบ่งปันเคล็ดลับเหล่านั้นกับผู้อื่น แล้วผู้ที่ได้รู้เคล็ดลับเหล่านั้นก็จะกลายเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดที่ช่วยเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้เช่นกัน”
(15)ดร.เดร (Dr Dre) :
ศิลปิน โปรดิวเซอร์ และเจ้าของค่ายเพลง ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปินนักดนตรีทำเงินสูงสุดในช่วงทศวรรษ 2010
“เวลาที่ผมมีไอเดียต่าง ๆ เกิดขึ้นมา ผมจะไม่หยุดคิดกับมันจนกว่าไอเดียนั้นจะหายไปเอง เพราะการเกิดไอเดียแบบนั้นมันไม่ได้มีมาตลอดเวลา”
(16)เซอร์เกย์ บริน (Sergey Brin) :
ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล (Google) และอดีตประธานบริษัทอัลฟาเบต (Alphabet)

“ความคาดหวังเป็นสิ่งที่ท้าทายเสมอ แต่ผมกลับมีความคาดหวังสูงทั้งสำหรับชีวิตตัวเอง และสำหรับเป้าหมายที่บริษัทของเราพยายามจะบรรลุ”
(17)ไบรอัน เชสกี (Brian Chesky) :
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอร์บีเอ็นบี (Airbnb) แพลตฟอร์มตัวกลางการเช่าและให้เช่าที่พัก
“วัฒนธรรมขององค์กรเปรียบเสมือนรากฐานของนวัตกรรมต่าง ๆ ในอนาคต ดังนั้น หน้าที่ของผู้ประกอบการคือการวางรากฐานเหล่านั้น”
(18)วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ (Berkshire Hathaway) นักลงทุนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน

“หากคุณกำลังลงทุนกับการศึกษาและคุณกำลังเรียนรู้ คุณควรทำมันตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะนั่นจะทำให้คุณมีเวลายาวนานสำหรับการสะสมความรู้
และสิ่งที่คุณเรียนรู้และลงทุนกับมันก็ควรเป็นความรู้ที่สะสมพอกพูนขึ้นไปเรื่อย ๆ ได้ เพื่อที่ความรู้นั้นจะพัฒนาต่อไป
ดังนั้น แทนที่จะเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างที่จะกลายเป็นสิ่งล้าสมัยในวันพรุ่งนี้ อย่างเช่น เรื่องซอฟต์แวร์บางตัว [ซึ่งอาจไม่มีใครใช้มันแล้วในอีก 2 ปีถัดจากนั้น] คุณควรเลือกเรียนรู้สิ่งที่จะทำให้คุณเก่งหรือฉลาดขึ้นต่อไปอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า”
(19)สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานกรรมการบริหารของบริษัทแอปเปิล (Apple)

“งานของคุณจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของคุณเป็นอย่างมาก และมีทางเดียวที่คุณจะรู้สึกพึงพอใจกับงานที่ทำได้อย่างแท้จริง นั่นก็คือทำสิ่งที่คุณคิดว่ามันเป็นงานที่ดีเยี่ยม และหนทางเดียวที่จะทำให้มันดีเยี่ยมได้ก็คือคุณต้องรักในสิ่งที่คุณทำ ถ้าคุณยังหาสิ่งนั้นไม่เจอ ก็จงค้นหาต่อไป อย่ายอมแพ้ มันก็เหมือนกับเรื่องของหัวใจ คุณจะรู้เองว่าใช่เมื่อคุณได้เจอมัน”
(20)เชอรีล แซนด์เบิร์ก (Sheryl Sandberg) อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส (Meta Platforms)
“ไม่มีสิ่งใดที่เหมาะสมกับคุณอย่างไร้ที่ติในตอนที่คุณกำลังมองหาสิ่งใหญ่ ๆ ที่คุณจะทำต่อไป คุณต้องคว้าโอกาสเหล่านั้นมา และทำให้โอกาสเหมาะสมกับคุณได้มากที่สุด แทนที่จะทำในทางตรงข้ามกัน เพราะฉะนั้น ความสามารถในการเรียนรู้เป็นคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่ผู้นำควรมี”
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 31 มกราคม 2568