เจดีย์ Chen Kieu: อัญมณีพอร์ซเลนอายุ 200 ปีใน Soc Trang
เจดีย์ Chen Kieu หรือที่เรียกว่าเจดีย์ Sa Lon ตั้งอยู่ในจังหวัด Soc Trang เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สําหรับชุมชนเขมร ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 200 ปี ยืนหยัดเป็นข้อพิสูจน์ถึงประเพณีทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ยั่งยืนของชาวเขมรในเวียดนาม
ตั้งอยู่ในชุมชน Dai Tam อําเภอ My Xuyen ห่างจากเมือง Soc Trang ประมาณ 12 กิโลเมตร เจดีย์ Chen Kieu สร้างขึ้นในปี 1815 โดยใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ไม้ และดินเหนียว เจดีย์ได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงระหว่างการวางระเบิดในช่วงสงครามและถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1969 โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงห้องโถงใหญ่ ศาลา เจดีย์ และบ้านพระคัมภีร์
ระหว่างการสร้างใหม่ การขาดแคลนวัสดุก่อสร้างทําให้พระภิกษุสงฆ์ใช้แนวทางที่สร้างสรรค์ พวกเขาเรียกร้องให้ชาวบ้านบริจาคชามและจานพอร์ซเลนเก่า ซึ่งต่อมาถูกใช้เพื่อตกแต่งผนังเจดีย์ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ลดต้นทุนการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิดลวดลายโมเสคที่ซับซ้อนและมีสีสันที่กําหนดเจดีย์ในปัจจุบัน ในไม่ช้าวัดก็กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในชื่อ "เจดีย์เฉินเกียว" ซึ่งแปลว่า "เจดีย์ชามพอร์ซเลน"

ช่างฝีมือเขมรที่มีทักษะจัดเรียงชิ้นพอร์ซเลนอย่างระมัดระวังเพื่อประดับประดาผนัง เสา และเจดีย์ ชิ้นส่วนที่ใหม่กว่าถูกฝังอยู่ในราวบันไดตกแต่ง ในขณะที่ชิ้นส่วนที่แตกหรือบิ่นถูกจัดเรียงอย่างพิถีพิถันเป็นลวดลายดอกไม้และรูปทรงเรขาคณิต
หนึ่งในลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดของเจดีย์คือประติมากรรมเทพธิดา Kayno ซึ่งประดับประดาบนยอดเสาของห้องโถงใหญ่ ด้วยปีกที่กางออก สิ่งมีชีวิตบนสวรรค์เหล่านี้ดูเหมือนจะยกชายคาขึ้น เชื่อมต่อเสาสูงตระหง่านกับหลังคาแนวนอนอย่างราบรื่น
ภายในห้องโถงใหญ่ มีเสาขนาดใหญ่ 16 เสาตั้งสูงขึ้นสู่เพดาน แต่ละเสาแกะสลักอย่างประณีตด้วยลวดลายวัฒนธรรมเขมร ผนังประดับประดาด้วยภาพวาดที่แสดงถึงชีวิตของพระพุทธเจ้าตั้งแต่ประสูติจนถึงการตรัสรู้ ทําให้ผู้มาเยือนได้เห็นคําสอนและประเพณีทางพุทธศาสนา

พื้นที่สีเขียวเขียวชอุ่มของเจดีย์ครอบคลุมพื้นที่สองเฮกตาร์ มีภูมิทัศน์ที่เงียบสงบ ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงตระหง่านที่ให้ร่มเงาและความเงียบสงบ เจดีย์เป็นมากกว่าสถานที่ทางศาสนา เป็นข้อพิสูจน์ถึงมรดกทางศิลปะของชาวเขมร โดยมอบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเงียบสงบที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และจิตวิญญาณแก่ผู้มาเยือน
ที่มา thesaigontimes.vn
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568