เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการหารือกับเลขาธิการกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนลูกจ้างแรงงานของสมาชิกหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ส่งเสริมการออมไว้ดูแลหลังเกษียณ ว่าการขับเคลื่อน กอช.สอดรับกับพันธกิจของหอการค้าไทย คือการสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ซึ่งหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จะร่วมส่งเสริม สนับสนุน และร่วมกันดำเนินงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีจุดเริ่มต้นจากการให้ความรู้ด้านการออมและการวางแผนทางการเงิน การส่งเสริมและสนับสนุนการออมเงินกับ กอช.ให้กับสมาชิกหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ตลอดจนกลุ่มนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อความมั่นคงของกลุ่มนักศึกษา กลุ่มลูกจ้างแรงงานของสมาชิก ให้มีวินัยในการออมและมีเงินใช้หลังเกษียณอายุต่อไป

 

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า กองทุน กอช.ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนในประเทศได้เข้าถึงและมีวินัยในการออม โดยควรเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มอาชีพในการเข้าร่วมเป็นสมาชิก กอช. ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกันตนของสำนักงานประกันสังคม มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 (ทุกทางเลือก) ก็ตาม พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการปรับปรุงกฎหมายให้ทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงกองทุน โดยจะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อสร้างรากฐานความมั่นคงทางการเงินให้กับประชาชน

 

น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช. กล่าวว่า กอช.เป็นการลงทุนในรูปแบบการออมระยะยาวที่คุ้มค่า มีความน่าเชื่อถือ และมีความปลอดภัย เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐ หากวางแผนการออมกับ กอช.ก็มีสิทธิรับเงินสมทบจากรัฐบาล โดยหากส่งเงินออมสะสม รัฐบาลจะสมทบเพิ่มให้ฟรีในเดือนถัดไป

 

ทั้งนี้ กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช.มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเกื้อหนุนการวางแผนทางการเงินของผู้ประกอบอาชีพอิสระ ไม่ได้ทำงานราชการภายใต้ระบบบำเหน็จบำนาญของรัฐ หรืออยู่นอกกองทุนเอกชนที่นายจ้างจ่ายเงินอุดหนุนกองทุนนั้นๆ โดยกองทุน กอช.จะช่วยให้ออมเงินสำหรับรองรับชีวิตวัยเกษียณได้ ช่วยสร้างความมั่นใจและหลักประกันความมั่นคงในชีวิตว่าผู้ออมจะมีเงินเลี้ยงดูตัวเองหลังเกษียณงาน หรือไม่ได้รับรายได้ประจำโดยปัจจุบันกองทุนการออมแห่งชาติ มีสมาชิก 2,496,526 คน มีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งนับได้ว่าเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงน้อยและมีการรองรับดูแลจากภาครัฐ

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 27 กันยายน 2565