อมตะ วีเอ็น เตรียมที่ดินนิคมฯในเวียดนามกว่า 3,000 ไร่ ตั้งธงปี 68 โต 40%
"อมตะ วีเอ็น" ตั้งเป้าปี 2568 โตเพิ่ม 40% จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่เวียดนาม งบลงทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายพอร์ตต่อ ขณะที่ปี 2567 กวาดรายได้ 5,379.40 ล้านบาท กำไร 100 ล้านบาท ที่ดินรอโอนอีก 130 ไร่
นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผยว่า ในปี 2568 ครบรอบ 30 ปี ที่เข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนาม โดยตั้งเป้าการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเวียดนามไว้ที่ 100-110 เฮกเตอร์ เพิ่มขึ้น 30-40% โดยสัดส่วนหลักจะมาจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง (ภาคเหนือของเวียดนาม) ซึ่งมีลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่คิดเป็น 60-70% ของยอดขายทั้งหมด
ปัจจุบัน อมตะ วีเอ็น มีที่ดินรองรับการขายใน 2 นิคมหลัก ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง มีที่ดินรวม 714 เฮกเตอร์ และได้ขายไปแล้วประมาณ 50% โดยเริ่มพัฒนาที่ดินเฟส 3 เพื่อรองรับการขายอย่างต่อเนื่อง นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ลองถั่น ที่มีที่ดินรวม 410 เฮกเตอร์ ซึ่งยังเหลือที่ดินขายอีกประมาณ 70-80%
ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยบวกในการลงทุนในเวียดนาม เกิดจากการปรับตัวภายในประเทศที่ช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาในการขออนุญาตต่าง ๆ รวมถึงสิทธิทางภาษีที่เอื้อต่อการผลิตเพื่อการส่งออก ต้นทุนการผลิตที่ต่ำ และการเป็นจุดศูนย์กลางทางการค้าของภูมิภาคทำให้เวียดนามยังคงเป็นหมุดหมายปลายทางหลักของนักลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อขยายการลงทุนใหม่
โดยทาง อมตะ วีเอ็น ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ขณะนี้ได้มีการศึกษาโครงการนิคมใหม่ที่คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 15-20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 600 ล้านบาท) ขณะที่ในปี 2569 บริษัทจะลงทุนทั้งในเรื่องที่ดินและค่าก่อสร้าง โดยมีแผนจะพัฒนานิคมใหม่ขนาดประมาณ 500 เฮกเตอร์ หรือประมาณ 3,000 ไร่ รองรับการย้ายฐานการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก
“แม้เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศ แต่เวียดนามยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีน โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ ที่มีการใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น และต้องการพื้นที่ที่มีความสะดวกในการขนส่ง เราเองก็จะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและรองรับการลงทุนจากหลากหลายอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้และขยายการลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับผลประกอบการปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 5,379.40 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 100.06 ล้านบาท โดยยอดขายที่ดินส่วนใหญ่ มีแหล่งรายได้มาจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง ซึ่งเป็นทำเลที่ลูกค้ามีความต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่
ขณะเดียวกัน คาดว่าการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ลองถั่น (ภาคใต้ของเวียดนาม) มีมูลค่าใกล้เคียงกับอมตะซิตี้ ฮาลอง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีค่าแรงสูงและมีราคาขายที่ดินสูง 1 เท่า โดย ณ สิ้นปี 2567 อมตะวีเอ็นมียอดขายที่ดินรอโอน (Backlog) ที่ 22 เฮกเตอร์ หรือประมาณ 130 ไร่ คาดว่าจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ภายในปี 68 และส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 6 มีนาคม 2568