ทุนจีนแปลงร่าง แค่เริ่มต้น
ความท้าทายที่ผู้ประกอบการไทยกำลังเผชิญในขณะนี้ ไม่ใช่มีเพียงการรุกคืบของธุรกิจจีนที่เข้ามาตีตลาดในไทยอย่างหนักหน่วง
ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์เท่านั้น แต่ยังมีปัญหาสินค้าไม่ได้คุณภาพจากต่างประเทศที่ทะลักเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือมาร์เก็ตเพลสต่างๆ สินค้าเหล่านี้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็ว คาดว่าในอนาคตจะเห็นแบรนด์จีนคุณภาพสูงเข้ามาแข่งกับผู้ประกอบการไทยมากขึ้น เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในจีนเองได้ผลักดันให้แบรนด์คุณภาพต้องขยายตลาดไปต่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าภาครัฐและผู้ประกอบการไทยมีมาตรการรับมืออย่างไร
การรุกคืบของธุรกิจจีนยังมีหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการย้ายไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตสินค้าในหลายประเทศอาเซียนรวมถึงไทย
เพื่อเลี่ยงการถูกสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าอัตราสูงสำหรับสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดในจีน รวมทั้งจดทะเบียนธุรกิจในสิงคโปร์เพื่อให้เป็นนิติบุคคลสัญชาติสิงคโปร์ให้พ้นสภาพจากการเป็นบริษัทจีนแล้วเข้ามาลงทุนในไทย แล้วมาขอรับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ คำถามคือหากสหรัฐตรวจสอบแล้วรู้ว่าเป็นบริษัทจากจีน จะทำให้ไทยโดนเพ่งเล็งการส่งออกสินค้ามากขึ้นหรือไม่
พร้อมกันนี้มีการตั้งคำถามว่าประเทศไทยได้ประโยชน์จากการบริษัทต่างชาติที่ยื่นขอรับการสนับสนุนการลงทุนจากบีโอไอ มากน้อยแค่ไหน มีการจ้างงานเกิดขึ้นในประเทศ เม็ดเงินหมุนเวียนและสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างไร โดยเฉพาะการตั้งความหวังไว้กับการมีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง กูเกิล ไมโครซอฟท์ และ ติ๊กต็อกมาตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในไทยสร้างประโยชน์ให้ประเทศอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่ กรมสรรพากรจะสามารถเก็บภาษีมีรายได้เข้าประเทศได้มากมาย ลดช่องว่างระหว่างผู้ประกอบการไทยกับต่างชาติได้อนาคตจริงหรือ
เราควรมีมาตรการ หรือกลไกเพื่อดูแลป้องกันผลประโยชน์ของประเทศอย่างไร กรณีที่จะมีการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public Private Partnership : PPP) กับกลุ่มทุนจีนในอนาคต ซึ่งอาจจะเป็นทั้งพันธมิตรธุรกิจกับบริษัทไทย หรือจดเป็นบริษัทร่วมทุน เพื่อให้เป็นบริษัทสัญชาติไทย และมาขอรับการสนับสนุนจากบีโอไอ เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์บริษัทข้ามชาติที่มีเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยต้องการ รวมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยี เป็นการมาลงทุนผลิตจริงในไทย ซึ่งต้องเป็นธุรกิจที่คนไทยยังไม่พร้อมที่จะแข่งขัน ทั้ง
หลายทั้งปวงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อผลประโยชน์ของประเทศทุกๆมิติ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 6 มีนาคม 2568