สูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพ ประกันสังคมใหม่ แบบเข้าใจง่าย
ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 ต้องรู้! สูตรคำนวณบำนาญชราภาพใหม่ CARE ที่คำนวณทั้งอดีต-ปัจจุบัน ปรับเศษเดือน ส่งมากได้มาก พร้อมตัวอย่างการคำนวณและผลประโยชน์ที่จะได้รับ
บอร์ดประกันสังคมมีมติเอกฉันท์เห็นชอบการปรับสูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพแบบใหม่ตามแบบ CARE ที่จะสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ประกันตน มาตรา 33 และมาตรา 39 โดยจะเริ่มใช้พร้อมกับการปรับเพดานค่าจ้างในเดือนมกราคม 2569
บอร์ดประกันสังคมไฟเขียวสูตรบำนาญใหม่ :
CARE (Career-Average Revalued Earnings) หรือ "เฉลี่ยตลอดการทำงาน ปรับเป็นค่าเงินปัจจุบัน" มีหลักการสำคัญ 3 ประการ
1)คิดค่าจ้างทุกเดือนที่เคยส่งสมทบ ไม่ใช่แค่ 60 เดือนสุดท้ายเหมือนสูตรเดิม
2)ปรับค่าจ้างในอดีตให้เป็นค่าเงินปัจจุบัน โดยคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อ
3)เน้นหลักการ "ส่งมากได้มาก ส่งน้อยได้ตามสัดส่วนจริง"
การปรับสูตรคำนวณบำนาญเป็นการเฉลี่ยตลอดอายุและปรับฐานเงินเดือนตามที่ได้เสนอไป จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33 และมาตรา 39 โดยเฉพาะส่วนที่ได้รับผลกระทบเรื่องค่าจ้างในช่วงท้ายของการส่งสมทบ
วิธีคำนวณบำนาญชราภาพแบบ CARE
สูตรพื้นฐานในการคำนวณมีดังนี้:
ขั้นตอนที่ 1:
คำนวณเงินเดือนเฉลี่ยที่ส่งจริงตลอดอายุการทำงาน (ทั้งมาตรา 33 และมาตรา 39)
ขั้นตอนที่ 2:
ปรับค่าเงินเดือนในอดีตให้เป็นมูลค่าปัจจุบัน
ขั้นตอนที่ 3:
คำนวณเงินบำนาญพื้นฐาน = 20% × ฐานเงินเดือนเฉลี่ยที่ปรับแล้ว
ขั้นตอนที่ 4:
คำนวณเงินบำนาญเพิ่มเติม = จำนวนปีที่ส่งเกิน 15 ปี × 1.5% × ฐานเงินเดือนเฉลี่ยที่ปรับแล้ว
ขั้นตอนที่ 5:
เงินบำนาญรวม = เงินบำนาญพื้นฐาน + เงินบำนาญเพิ่มเติม
ตัวอย่างการคำนวณบำนาญชราภาพแบบใหม่
ตัวอย่างผู้ประกันตนส่งเงินสมทบมาตรา 33 เป็นเวลา 15 ปี และส่งต่อมาตรา 39 อีก 10 ปี
สูตรเดิม:
* เงินบำนาญพื้นฐาน: 20% × 4,800 = 960 บาท
* เงินบำนาญเพิ่มเติม: 10 ปี × 1.5% × 4,800 = 720 บาท
* เงินบำนาญรวม: 960 + 720 = 1,680 บาท
*
สูตรใหม่ (CARE):
1)สมมติว่าเงินเดือนเฉลี่ยที่ปรับเป็นมูลค่าปัจจุบันแล้วเท่ากับ 12,000 บาท
2)เงินบำนาญพื้นฐาน: 20% × 12,000 = 2,400 บาท
3)เงินบำนาญเพิ่มเติม: 10 ปี × 1.5% × 12,000 = 1,800 บาท
4)เงินบำนาญรวม: 2,400 + 1,800 = 4,200 บาท
จากตัวอย่างจะเห็นว่า ผู้ประกันตนรายนี้จะได้รับเงินบำนาญเพิ่มขึ้นจาก 1,680 บาท เป็นประมาณ 4,200 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 2.5 เท่า
ผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการส่งเงินสมทบในมาตรา 39
สำหรับผู้ที่เคยส่งเงินสมทบในมาตรา 33 เป็นเวลา 15 ปี และต่อมาเปลี่ยนเป็นมาตรา 39 จะเห็นผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการส่งต่อดังนี้:
ส่งต่อ 1 ปี – สูตรเดิมจะได้รับ 2,786 บาท สูตรใหม่จะได้รับ 3,088 บาท (เพิ่มขึ้น 11%)
ส่งต่อ 3 ปี – สูตรเดิมจะได้รับ 2,176 บาท สูตรใหม่จะได้รับ 3,259 บาท (เพิ่มขึ้น 50%)
ส่งต่อ 5 ปี – สูตรเดิมจะได้รับ 1,320 บาท สูตรใหม่จะได้รับ 3,417 บาท (เพิ่มขึ้น 159%)
จะเห็นได้ว่า ยิ่งส่งมาตรา 39 นานเท่าไร ยิ่งได้ประโยชน์จากสูตรใหม่มากขึ้นเท่านั้น
การบังคับใช้สูตรใหม่
การบังคับใช้สูตรใหม่จะเริ่มในเดือนมกราคม 2569 พร้อมกับการปรับเพดานค่าจ้าง โดยคาดว่าจะมีผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ปีละประมาณ 100,000 คน จากทั้งหมดที่มีผู้ประกันตนจำนวน 800,000 คน
ผู้ที่รับบำนาญอยู่แล้ว หากคำนวณด้วยสูตรใหม่แล้วได้น้อยกว่าเดิม จะยังคงได้รับเท่าเดิม ส่วนผู้ที่คำนวณแล้วได้รับเพิ่มขึ้นก็จะได้รับบำนาญเพิ่มขึ้นทันที ซึ่งจะสร้างความเป็นธรรมมากขึ้นกับผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33 และมาตรา 39
การนับเวลาส่งเงินสมทบแบบใหม่
ในสูตรใหม่มีการนับเวลาส่งเงินสมทบที่แตกต่างจากเดิม คือ:
* สูตรเดิม: นับเป็นปี โดย 15 ปี 11 เดือน จะนับเป็น 15 ปีเท่านั้น
* สูตรใหม่: นับเศษเดือนด้วย เช่น 25 ปี 6 เดือน จะได้อัตราบำนาญ 35.75% (ไม่ใช่แค่ 35%)
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 12 มีนาคม 2568